แฮ็กเกอร์ชาวรัสเซียถูกกล่าวหาว่าทำเงินได้มากกว่า $400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ผ่านการโจมตีคริปโตแบบแรนซัมแวร์ในปี 2021
ตามรายงานของบริษัทวิเคราะห์ด้านบล็อกเชนเมื่อวันจันทร์ Chainalysis พบว่า ประมาณ 74% หรือมากกว่า $400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ของเงินที่โจรกรรมไปได้จากแรนซัมแวร์ในปีที่ผ่านมา ถูกส่งไปยังที่อยู่เก็บคริปโต (wallet addresses) ที่มีความเสี่ยงสูงซึ่งน่าจะอยู่ในรัสเซีย รายงานวิเคราะห์การแฮ็กแรนซัมแวร์ตลอดปี 2021 และพิจารณาความเกี่ยวข้องกับรัสเซียผ่านคุณลักษณ์สำคัญสามประเด็นด้วยกัน ได้แก่
- ร่องรอยของ Evil Corp องค์กรอาชญากรรมไซเบอร์ในรัสเซียอยู่เบื้องหลังการละเมิด กลุ่มถูกกล่าวว่ามีความสัมพันธ์กับรัฐบาลรัสเซีย
- การโปรแกรมแรนซัมแวร์เล็งเหยื่อของประเทศที่ไม่ใช่อดีตสหภาพโซเวียต
- สายพันธ์แรมซัมแวร์ที่แชร์เอกสารและประกาศเป็นภาษารัสเซีย
นอกจากเกณฑ์ดังกล่าวแล้ว ปรากฏว่าข้อมูลการเยี่ยมชมเว็บยืนยันว่าเงินทุนที่ถูกรีดไถไปนั้นส่วนใหญ่ฟอกผ่านรัสเซีย เงินอีก 13% ที่ส่งจากที่อยู่ (addresses) แรนซัมแวร์ไปยังบริการผู้ใช้งานที่มีแนวโน้มว่าอยู่ในรัสเซีย มากกว่าภูมิภาคอื่น ๆ แรนซัมแวร์เรียกค่าไถ่มักจะแพร่ระบาดในคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้งานผ่านการใช้งานโปรแกรม หรือเมื่อดาวน์โหลดไฟล์ที่ไม่รู้จัก ฯลฯ จากนั้นก็เข้ารหัสไฟล์ของเหยื่อแล้วเรียกค่าไถ่ผ่าน Bitcoin (BTC) หรือ Monero (XMR) ไปยัง wallet address เพื่อปลดล็อกให้ไฟล์เข้าถึงได้
หนึ่งในคดีที่โด่งดังอื้อฉาวมากในปีที่แล้ว เมื่อ Darkside องค์กรแฮ็กข้อมูลในรัสเซียได้ใช้รหัสผ่านที่รั่วไหลเพียงอันเดียว โจมตีระบบคอมพิวเตอร์ของ Colonial Pipeline ส่งผลให้บริษัทท่อส่งน้ำมันถูกบังคับให้จ่ายเงินค่าไถ่เป็นคริปโตมากกว่า $4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่กู้คืนกลับมาได้ด้วยเงิน $2.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อให้สามารถข้าถึงไฟล์ได้อีกครั้ง …
ที่มา : cointelegraph.com
