ตลาด Upbit โดนแฮ็กครั้งล่าสุด เป็นเครื่องเตือนใจถึงความเสี่ยงของการเก็บคริปโตของคุณเอาไว้กับตลาด Exchange เรามาลองสำรวจการแฮ็กจำนวน 7 ครั้ง ทั้งหมดเกิดขึ้นภายในปีนี้ แต่ละครั้งโดดเด่นกว่ากันอย่างไร และคุณได้รับบทเรียนอะไรบ้างไหม? ไม่ใช่คีย์ของคุณ ไม่ใช่คริปโตของคุณ
Cryptopia ดับมืดลงในวันที่ 15 มกราคม หลังจากพบ “การละเมิดด้านความปลอดภัยขึ้น” และ “สูญเสียครั้งใหญ่” เว็บตลาดตกอยู่ในความมืดและเงียบไป ตลอดทั้งเดือนมกราคมไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ เว็บไซต์อ้างว่าไม่สามารถให้ความเห็นใด ๆ ในช่วงที่ตำรวจกำลังสืบสวนเหตุโดนแฮ็กสูญเงินราว $16 ล้านดอลลาร์
วิธีแฮ็กไม่เป็นที่ชัดเจน แต่ทางการสืบสวนพบในเดือนสิงหาคมว่า Cryptopia รวมเงินทุนของลูกค้าไว้ใน catchall wallet (ไว้ในหลายบัญชี) ตลาด exchange สัญชาตินิวซีแลนด์นี้พยายามทำสิ่งที่ถูกต้องหลังจากถูกแฮ็ก แล้วกลับมาให้บริการอีกครั้งในเดือนมีนาคม ทว่าการฟื้นฟูกลับไม่เป็นดั่งหวัง ทำให้ตลาดต้องประสบกับภาวะล้มละลายในที่สุด
DragonEx จากสิงคโปร์ ถูกแฮ็กในวันที่ 24 มีนาคม ตอนแรกปฏิเสธไม่ยอมเปิดเผยจำนวนเงินของลูกค้าที่สูญเสียไป ต่อมาจึงยอมเปิดเผยผ่าน telegram ว่าสูญเสียเงินไปราว ๆ $7 ล้านดอลลาร์ DragonEx ไม่ได้ให้สัญญาว่าจะคืนเงินเต็มจำนวนเช่นเดียวกับ exchange ทั่วไป กลับบอกว่ากำลังทำแผน “จ่ายเงินคืนเบื้องต้น” เป็นโทเคนTether หรือ Dragon Token โทเคนของตลาดแทน
แฮ็กเกอร์พุ่งเป้าไปยัง Bithumb ตลาดสัญชาติเกาหลีใต้ ในเดือนมีนาคม ขโมยเสียเงินไปได้ราว $6.2 ล้าน XRP ก่อนหน้านั้นตลาดเคยถูกแฮ็กสูญเสียเงินในปี 2018 จำนวน $31 ล้านดอลลาร์ ตลาด Bithumb ตั้งข้อสงสัยว่าการแฮ็กมาจากภายในองค์กร เนื่องจากมีการถอนเงินออกอย่างผิดปกติจาก wallet หนึ่ง ตลาดเคลมว่าเงินทุนของลูกค้าไม่ได้สูญหายแต่อย่างใด
แฮ็กเกอร์ขโมยบิตคอยน์ไปได้จำนวน 7,000 bitcoin มูลค่าราว $40.7 ล้านดอลลาร์ จากตลาด Binance ในเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นตลาดที่มีปริมาณซื้อขายมากที่สุดของโลก พบว่าเกิดช่องโหว่ใน hot wallet แม้ตลาดเคลมว่า เงินทุนที่สูญเสียคิดเป็น 2 เปอร์เซ็นต์ของเงินทุนทั้งหมดเท่านั้น แฮ็กเกอร์พยายามฟอกเงินโดยย้ายเงินผ่านเครือข่าย wallet รายเล็กรายน้อยแล้วเปลี่ยนเป็นเงินสดในที่สุด ตลาด Binance หยุดให้บริการฝากถอนเงินเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์เพื่อปรับปรุงระบบความปลอดภัย หลังจากนั้นตลาดกลับมาให้บริการตามปกติอีกครั้งในวันที่ 15 พฤษภาคม และสัญญาว่าจะคืนเงินให้ลูกค้าจากกองทุนเงินสำรองฉุกเฉินของตลาด
BiTrue ตลาด exchange สัญชาติสิงคโปร์ ถูกแฮ็กสูญเสียเงินทุนของลูกค้าราว $4.2 ล้านดอลลาร์ ในเดือนมิถุนายน แฮ็กเกอร์พุ่งเป้าช่องโหว่ของกระบวนการเข้าถึงบัญชีลูกค้าภายในตลาด BiTrue ขโมยคริปโตไปได้จากกระเป๋าเหรียญ XRP ($4.01 ดอลลาร์) และ ADA ($231,800 ดอลลาร์) แฮ็กเกอร์โอนเงินจำนวน 9.3 ล้านเหรียญ XRP และ 2.5 ล้านเหรียญ ADA ไปยังตลาด exchange ต่าง ๆ BiTrue บอกว่าพยายามร่วมมือกับตลาดปลายทางให้แช่แข็งเงินทุนและสัญญาจะคืนเงินทุนแก่ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากเหตุดังกล่าว
Bitpoint ตลาด exchange สัญชาติญี่ปุ่น สูญเสียเงินมูลค่า $28 ล้านดอลลาร์ จากบัญชีลูกค้าเหตุโดนแฮ็กราว 50,000 ราย ไม่ทราบแน่ชัดว่าแฮ็กเกอร์ใช้วิธีใดละเมิดความปลอดภัย ส่งผลให้ Bitpoint หยุดบริการซื้อขายเป็นเวลาหนึ่งเดือน ต่อมาRemixpoint บริษัทแม่ของ Bitpoint ออกมาให้คำมั่นสัญญาว่าจะคืนเงินลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ แล้วเริ่มกลับมาให้บริการอีกครั้งในเดือนสิงหาคม
Upbit ตกเป็นเหยื่อโดนแฮ็กรายล่าสุด หลังจากสูญเสียเงิน $49 ล้านดอลลาร์ เมื่อเวลา 9:00 UTC ของวันที่ 26 พฤศจิกายน 2019 มีการทำธุรกรรมอย่างผิดปกติ ส่งผลให้ตลาดสูญเสียเงินไปจำนวน 342,000 ether ภายในเพียงไม่กี่นาที ตลาดบอกว่าเงินที่สูญเสียไปไม่ได้มาจากเงินทุนของลูกค้าแต่อย่างใด และจะหยุดให้บริการชั่วคราวอย่างน้อยสองสัปดาห์
เมื่อช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา การแฮ็กเหล่านี้เป็นตัวอย่างความเสี่ยงเกี่ยวกับตลาดและลูกค้าที่ไว้วางใจตลาด exchange ได้เป็นอย่างดี แล้วจะเกิดอะไรขึ้นอีกหลังจากนี้ในปี 2020? หวังว่าจะเกิดการสูญเสียจากตลาดชื่อดังทั้งหลายในวงการคริปโตน้อยลง
ที่มา : coindesk.com
——————————————————–
สนับสนุนโดยกลุ่ม Coin Thai Talk : https://www.fb.com/groups/CoinThaiTalk/ กลุ่มใหม่ของคนรักคริปโต
