Lucien Chen อดีตหัวหน้าเจ้าหน้าที่ด้านเทคนิค (CTO) และผู้ร่วมก่อตั้งบล็อกเชนโปรโตคอล Tron (TRX) ประกาศว่าเขาจะออกจากโครงการ โดยอ้างว่ามันกลายเป็นรวมศูนย์รวมอำนาจมากเกินไปและหลงทางจากหลักการก่อตั้ง Chen เปิดเผยการตัดสินใจของเขาในโพสต์บล็อก Medium เผยแพร่เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม
ในประกาศจากบล็อกโพสต์ Chen เล่าประวัติความเป็นมาของโครงการ Tron และการเติบโตของ TRX จนประสบความสำเร็จกลายเป็นคริปโทเคอร์เรนซีใหญ่เป็นอันดับ 11 ตามมูลค่าราคาตลาด
อย่างไรก็ตาม ซีทีโอกล่าวว่าแม้จะประสบความสำเร็จ ทว่าความขัดแย้งไม่ลงรอยกันระหว่างตัวเขากับ Justin Sun ผู้ร่วมก่อตั้งนั้น ทำให้เขาเลือกตัดสินใจออกจากโครงการ
ท่ามกลางความกังวลทั้งหมดของเขา Chen แย้งว่าโครงการไม่ซื่อสัตย์ต่อหลักการก่อตั้งเกี่ยวกับการกระจายศูนย์ (decentralizing) กลายเป็นการรวมศูนย์อำนาจเกินไป (centralized) อย่างเห็นได้ชัดเจน และละเลยการส่งเสริมการใช้แอพพลิเคชั่นเชิงพาณิชย์ที่เน้นอินเทอร์เน็ตภายในระบบนิเวศ
เขาวิจารณ์กลไกการลงความเห็นร่วมที่ชื่อว่า delegated proof-of-stake [DPoS] และการกำกับดูแลของตัวแทน และโหนดการสร้างบล็อกใหม่ โดยอ้างว่า
กลไก DPOS ของ Tron นั้นเป็นการกระจายศูนย์แบบปลอม ๆ (pseudo-decentralized) โหนด 27 SR (บล็อกโหนด) มีมากกว่า 170 ล้าน TRX (โหวต) และส่วนใหญ่ควบคุมโดย Tron มันยากที่คนอื่น ๆ จะเข้ามาเป็นบล็อกโหนด ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถเข้าร่วมในการสร้างบล็อกใหม่ได้
Lucien Chen
Chen ยังอ้างอีกต่อไปว่า บางโหนดมี “มากกว่า 90% โหวตจากผู้โหวตไม่กี่คน” และการลงทุนจากนักลงทุนรายย่อยจึงถูกกีดกันอย่างเห็นได้ชัด “จำนวน TRX ใน Tron เท่ากับ 100 พันล้าน ขณะที่จำนวนโหวตของตัวแทนมีน้อยกว่า 8 ล้าน” เขากล่าวเพิ่มเติม และสรุปว่า
โทเคนแบบกระจายศูนย์ถูกรวมศูนย์ ตัวแทนถูกรวมศูนย์ การพัฒนาโค้ดถูกรวมศูนย์ แม้กระทั่งชุมชนก็ถูกจัดระเบียนภายใต้การรวมศูนย์อำนาจ
Lucien Chen
นอกจากเรื่องความกังวลการรวมศูนย์อำนาจแล้ว Chen ยังกล่าวในฐานะอดีตซีทีโอที่ช่วยกันสร้างแพลตฟอร์มขึ้นมา เขารู้ดีว่าทุกวันนี้ แอพพลิเคชั่นอินเทอร์เน็ตที่แท้จริงนั้นไม่สามารถทำงานได้ในเครือข่าย Tron
หลังจากออกจาก Tron แล้ว Chen กำลังจะออกโครงการบล็อกเชนแบบกระจายศูนย์ของตนเอง ภายใต้ชื่อ “Volume Network” เขาเคลมว่าการร่วมทุนครั้งใหม่จะซื่อสัตย์ต่ออุดมการณ์ของเขาและมุ่งเน้นการกระจายศูนย์มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการช่วยให้ผู้ใช้งานขุดโดยใช้ฮาร์ดแวร์ที่ไม่จำเป็นต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญทำให้ลดกฎเกณฑ์การการมีส่วนร่วมลง
ที่มา : cointelegraph.com
