Galen Danziger ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี (CTO) ของ MouseBelt Blockchain Accelerator นำเสนอมุมมองด้านการศึกษาบล็อกเชนปี 2019 และโอกาสในปี 2020
บริษัทสตาร์ทอัพและบริษัทชั้นนำของโลก 500 แห่ง หรือที่รู้จักกันในชื่อ “Fortune 500 Companies” ต้องการบุคคลที่มีความสามารถด้านบล็อกเชน และเงินเดือนเฉลี่ยของนักพัฒนาบล็อกเชนในสหรัฐฯ สูงถึง $130,000 ตอนนี้จึงเป็นโอกาสเหมาะมากนักศึกษาควรเรียนรู้ทักษะด้านบล็อกเชนและเป็นช่วงเวลาที่ดีที่มหาวิทยาลัยเริ่มนำเสนอหลักสูตรด้านบล็อกเชน แม้ว่าในปี 2019 เราเห็นความก้าวหน้าการศึกษาด้านบล็อกเชนสูงขึ้น แต่ก็ยังมีช่องว่างที่ต้องเติมเต็มอีกมาก
ผู้เรียนรู้ด้านบล็อกเชน 70 กว่าคนในองค์กรที่เราทำงานอยู่ที่ MouseBelt มีเพียงหนึ่งในสามเท่านั้นที่เข้าถึงหลักสูตรบล็อกเชนในมหาวิทยาลัย สถาบันในชนบทใหญ่ ๆ อย่างเช่น Indiana University มีกลุ่มนักศึกษากำลังกระตือรือร้นเรียนรู้ด้านบล็อกเชน แต่ก็ได้รับเงินทุนสนับสนุนเพียงเล็กน้อยหรือผู้บริหารให้ความสนใจน้อยมาก
แต่ก็มีข่าวดี ในปีนี้ University of California มีโครงการสนับสนุนนักศึกษาด้านนวัตกรรมบล็อกเชนในมหาวิทยาลัย IBM จับมือทำงานกับ Columbia University ด้านบล็อกเชน 2 โครงการ และ Portland State ออกหลักสูตรประกาศนียบัตรด้านธุรกิจบล็อกเชนในรูปแบบออนไลน์
ในขณะเดียวกัน วงการอุตสาหกรรมก็พึ่งพาตนเอง เมื่อต้นปีที่ผ่านมา โครงการคริปโต 13 โครงการ จับมือสร้างพันธมิตรด้านการศึกษาบล็อกเชน หรือที่เรียกว่า Blockchain Education Alliance ขึ้น ซึ่งเป็นโครงการยึดโยงกับนักศึกษามหาวิทยาลัยและจัดเตรียมความรู้ที่จำเป็นแก่นักศึกษาเพื่อให้สามารถเข้าสู่ตลาดแรงงานด้านบล็อกเชนที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทจัดหางานด้านเทคโนโลยีก็เปิดตัวโครงการจัดหางานด้านบล็อกเชนโดยเฉพาะอีกด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น นักศึกษากำลังตระหนักถึงศักยภาพของอุตสาหกรรมและต้องการเรียนรู้ด้านบล็อกเชนมากขึ้น ในปีที่ผ่านมามีนักศึกษาสนใจเรียนรู้เพิ่มขึ้นสองเท่าเมื่อเทียบกันปีก่อน องค์กรกำลังบ่มเพาะบุคลากร 70 กว่าคน ซึ่งมาจาก 16 ประเทศ พวกเขาจบการศึกษาจากสถาบันชั้นนำ ได้แก่ UCLA, UCSB, UC Davis, Duke, University of Chicago, USC, University of Wisconsin และ the University of Washington ผู้เรียนรู้เหล่านี้ไม่เคยปรึกษาหารือเกี่ยวกับบล็อกเชนมาก่อน พวกเขากำลังบ่มเพาะตนเองผ่านโครงการและเรียนรู้เกี่ยวกับธุรกิจในท้องถิ่น
นี่เป็นแค่เริ่มต้น เรากำลังมองไปในวันข้างหน้าในปี 2020 ฉันเชื่อว่าคงได้เห็นคณะวิชาและผู้บริหารมหาวิทยาลัยให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่อง โดยออกหลักสูตรรับรองทางการศึกษามากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะมีการมุ่งเน้นบล็อกเชนในทุกระดับการศึกษา (ทั้งระดับ ปริญญาตรี ปริญญาโท บัณฑิตศึกษาบริหารธุรกิจ และปริญญาเอก) รวมถึงมีความร่วมมือกับนักวิจัยและผู้ประกอบการมากขึ้น และศิษย์เก่าที่ยอมรับบล็อกเชนก็ร่วมบริจาคเงินทุน
ฉันยังเชื่อว่า คงได้เห็นการให้ความรู้ขยายตัวในพื้นที่ด้อยโอกาส อย่างเช่น พื้นที่ชนบทในสหรัฐฯ ละตินอเมริกา และแอฟริกา ปัจจุบันทรัพยากรการเรียนรู้เข้มขึ้นมากขึ้นในมหาวิทยาลัยที่ตั้งอยู่ในเมืองใหญ่ ๆ มีการใช้งานบล็อกเชนจริงในอุตสาหกรรมต่าง ๆ อาทิ วงการมือถือ เกษตรกรรม และพลังงาน ซึ่งมีผลอย่างมีนัยสำคัญในพื้นที่ด้อยโอกาส ดังนั้น ความต้องการเรียนรู้นอกพื้นที่ตลาดใหญ่จำเป็นต้องขยายให้เติบโตด้วยเช่นกัน
เทคโนโลยีบล็อกเชนตอนนี้ยังคงดำเนินต่อไป ความต้องการบุคคลที่มีความสามารถในปัจจุบันและในอนาคตที่ไม่ชัดเจนจะแจ่มชัดมากขึ้น ปี 2019 ให้บทเรียนว่า คนรุ่นใหม่ต้องกระตือรือร้นเป็นส่วนหนึ่งของอนาคตนี้ให้ได้ และจำเป็นต้องเรียนรู้อย่างเหมาะสมด้วย ขณะที่เราเริ่มเห็นสัญญาณในปี 2020 แล้ว สถาบันการศึกษาระดับสูงและผู้ที่มีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมจำเป็นต้องให้ความสำคัญอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งจัดเตรียมทรัพยากรและให้ความรู้แก่นักศึกษาอย่างเข้มข้นมากกว่าเดิม
ที่มา : coindesk.com
——————————————————–
สนับสนุนโดยกลุ่ม Coin Thai Talk : https://www.fb.com/groups/CoinThaiTalk/ กลุ่มใหม่ของคนรักคริปโต