“จุลพันธ์” ยัน เริ่มลงทะเบียนดิจิทัลวอลเล็ต 1 ส.ค.นี้ คาดมีผู้ได้สิทธิ 45 ล้านคน

รมช.คลัง “จุลพันธ์” แจงโครงการ ดิจิทัลวอลเล็ต ใช้งบ 4.5 แสนล้านบาท คุณสมบัติผู้ได้รับเงินหมื่นยังย้ำต้องเป็นผู้มีรายได้ไม่เกิน 8.4 แสนบาท และมีเงินฝากรวมกันไม่เกิน 5 แสนบาท ประชาชนทั่วไปเริ่มลงทะเบียน 1 ส.ค.นี้ ใช้จ่ายภายในไตรมาส 4 ปี 2567

วันที่ 24 ก.ค. 2567 เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานแถลงข่าว “ดิจิทัลวอลเล็ต โครงการเพื่อประชาชน พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจแล้ววันนี้” พร้อมด้วย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง

จากนั้นเวลา 10.30 น. นายจุลพันธ์ ได้แถลงรายละเอียดการลงทะเบียน และการยืนยันตัวตน ว่า ขอให้มั่นใจว่าเรามีแหล่งเงินเพียงพอในการดำเนินการ โดยมีกลุ่มเป้าหมาย 50.7 ล้านคน และจากการประมาณคาดว่าจะมีคนเข้าร่วม 45 ล้านคน รวมงบประมาณวงเงิน 4.5 แสนล้านบาท แบ่งงบเป็น 2 กลุ่ม คือ งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ 2567 รวมถึงการบริหารการคลัง และงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 จำนวน 165,000 ล้านบาท

ส่วนที่ 2 งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมปีงบประมาณ 2568 รวมถึงการบริหารการคลังและการบริหารจัดการงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ 2567 รวม 285,000 ล้านบาท

คุณสมบัติของประชาชนที่จะเข้าร่วมโครงการดิจิทัลวอลเล็ต

1. ประชาชนต้องมีชื่อในทะเบียนบ้าน
2. มีสัญชาติไทย
3. มีอายุตั้งแต่ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ปิดรับลงทะเบียน คือก่อน 15 ก.ย. 2567
4. เป็นผู้มีรายได้ไม่เกิน 840,000 บาท ในปีภาษี 2566
5. ไม่เป็นผู้มีเงินฝากกับธนาคารพาณิชย์ และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ รวมกันเกิน 500,000 บาท โดยตรวจสอบข้อมูลเงินฝาก 6 ประเภท ได้แก่ 1. เงินฝากกระแสรายวัน 2. เงินฝากออมทรัพย์ 3. เงินฝากประจำ 4. บัตรเงินฝาก 5. ใบรับเงินฝาก และ 6. ผลิตภัณฑ์เงินฝากในชื่อเรียกอื่นใดที่มีลักษณะเดียวกับข้อ (1)-(5)
6. ไม่เป็นผู้ที่อยู่ระหว่างต้องโทษจำคุกในเรือนจำ
7. ไม่เป็นผู้ที่ถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนในมาตรการ/โครงการอื่นๆ ของรัฐ
8. ไม่เป็นผู้ฝ่าฝืนเงื่อนไขของมาตรการ/โครงการอื่นๆ ของรัฐ

การลงทะเบียนโครงการดิจิทัลวอลเล็ต การลงทะเบียนประชาชนทั่วไป เริ่ม 1 ส.ค. – 15 ก.ย. 2567 ผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ที่เป็นซุปเปอร์แอปฯ บนสมาร์ตโฟน โดยไม่มีการจำกัดจำนวนประชาชนที่จะเข้าร่วมใช้สิทธิในโครงการฯ ประชาชนทุกคนที่มีคุณสมบัติครบถ้วนก็สามารถเข้าร่วมโครงการได้ ซึ่งรัฐบาลได้ประมาณการไว้จำนวน 45-50 ล้านคน

ส่วนกลุ่มประชาชนผู้ไม่มีสมาร์ตโฟน ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมการให้เข้าร่วมโครงการฯ ได้ในระยะต่อไป โดยจะให้มีการลงทะเบียนและยืนยันตัวตนผ่านช่องทางที่กำหนด ระหว่างวันที่ 16 ก.ย. – 15 ต.ค. 2567 ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบคุณสมบัติ สถานะบุคคล และที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน เช่นเดียวกับกลุ่มผู้มีสมาร์ตโฟน สำหรับส่วนของการใช้จ่ายนั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาให้ใช้สิทธิผ่านบัตรประจำตัวประชาชน ต้องซื้อขายแบบตัวต่อตัว และต้องมีการบันทึกภาพผู้ถือบัตรทุกครั้ง ดังนั้นการลงทะเบียนผ่านสมาร์ตโฟนจะสามารถใช้งานได้สะดวกกว่า จึงแนะนำให้พยายามลงทะเบียนผ่านทางสมาร์ตโฟนก่อนเป็นอันดับแรก

การลงทะเบียนร้านค้า เริ่มตั้งแต่ 1 ต.ค. 2567 เป็นต้นไป คาดว่ามีไม่ต่ำกว่า 2 ล้านร้านค้า แบ่งเป็นกลุ่มนิติบุคคลที่ขึ้นทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้ากระทรวงพาณิชย์ จำนวน 9.1 แสนร้านค้า กลุ่มร้านธงฟ้าและร้านอาหารธงฟ้า 1.98 แสนร้านค้า ร้านโชห่วย หาบเร่แผงลอย ร้านอาหาร ร้านตลาดนัด คาดว่ามี 4 แสนร้านค้า กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน สหกรณ์ จำนวน 9.3 หมื่นร้านค้า ห้างค้าส่ง ค้าปลีก ร้านสะดวกซื้อ 5 หมื่นร้านค้า และกลุ่มผู้ผลิตห้าง ร้านค้าในเครือข่ายในห้างสรรพสินค้าอีก 5 แสนร้านค้า ซึ่งจะเป็นโครงการของรัฐที่รวมเอาร้านค้ามาร่วมโรงการจำนวนมาก และเริ่มใช้จ่ายโครงการได้ในไตรมาส 4 ของปี 2567

เงื่อนไขการใช้จ่ายดิจิทัลวอลเล็ต แบ่งเป็น 2 แบบ คือ

1. การใช้จ่ายระหว่างประชาชนกับร้านค้า: ประชาชนจะสามารถใช้จ่ายได้กับร้านค้าขนาดเล็ก รวมถึงร้านสะดวกซื้อขนาดเล็ก โดยไม่รวมห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีก-ค้าส่งสินค้าขนาดใหญ่ระดับประเทศ และระดับท้องถิ่น และในการซื้อสินค้า หากประชาชนมีที่อยู่ตามทะเบียนบ้านในอำเภอใด ก็ต้องซื้อสินค้าจากร้านค้าในอำเภอเดียวกันเท่านั้น และต้องซื้อขายแบบพบหน้า (Face to Face) ซึ่งการซื้อขายแบบพบหน้านี้จะมีการตรวจสอบ 3 อย่าง คือ 1. ที่อยู่ของร้านค้าตามที่ลงทะเบียนโครงการฯ 2. ที่อยู่ของประชาชนตามทะเบียนบ้านในขณะที่ลงทะเบียนโครงการฯ และ 3. พิกัดที่อยู่ของประชาชนในขณะที่ใช้จ่ายกับร้านค้าต้องอยู่ในเขตอำเภอเดียวกัน การชำระเงินจึงจะถือว่าสมบูรณ์
2. การใช้จ่ายระหว่างร้านค้ากับร้านค้า: ร้านค้าทุกประเภทสามารถซื้อขายสินค้าระหว่างกันได้ และไม่มีการกำหนดเงื่อนไขว่าต้องเป็นการซื้อขายแบบพบหน้า (Face to Face) จึงซื้อขายสินค้าระหว่างกันได้ แม้จะอยู่ต่างพื้นที่
3. ประเภทสินค้า: สินค้าทุกประเภทสามารถเข้าร่วมโครงการฯ ได้ ยกเว้นสินค้า Negative List ได้แก่ สลากกินแบ่งรัฐบาล เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผลิตภัณฑ์ยาสูบ กัญชา กระท่อม พืชกระท่อม ผลิตภัณฑ์กัญชา และกระท่อม บัตรกำนัล บัตรเงินสด ทองคำ เพชร พลอย อัญมณี น้ำมันเชื้อเพลิง ก๊าซธรรมชาติ เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องมือสื่อสาร โดยทางกระทรวงพาณิชย์อาจพิจารณาแก้ไขปรับปรุงรายการสินค้า Negative List เพิ่มเติมได้ ทั้งนี้การใช้จ่ายภายใต้โครงการฯ จะไม่รวมถึงบริการต่างๆ

ติดตามข่าวคริปโตก่อนใคร
Website : https://www.siambitcoin.com/
facebook : https://www.facebook.com/SiamBitcoin/
blockdit : https://www.blockdit.com/siambitcoin
x : https://twitter.com/siambitcoin