เหตุผลที่รัฐบาลและองค์กรต่าง ๆ ต้องการบล็อกเชน?

ผู้เชี่ยวชาญในงาน BlockShow Asia 2019 เห็นว่า Bitcoin เป็นเพียงแค่คริปโตเคอร์เรนซีหนึ่ง แต่ Blochain นั้นเป็นเฟรมเวิร์กการเชื่อมโยงรูปแบบใหม่ (connectivity framework)

วิทยากรที่งานเสวนาในหัวข้อ “Collaboration in a Decentralized Ecosystem: Why Government And Corporations Need It” ประกอบด้วย Patrick Yeo ผู้นำ Venture Hub Leader จาก PwC Singapore, Vinay Mohan กรรมการผู้จัดการ ConsenSys Singapore, Veronica Tan ผู้อำนวยการ  Infocomm Media Development Authority, Alan Lim ผู้อำนวยการโครงการ IBM Blockchain Technologies และ Yi Ming Ng หุ้นส่วนผู้จัดการ Tribe Accelerator

วิทยากรทุกคนต่างชี้ว่า ฟีเจอร์หลักของเทคโนโลยีบล็อกเชนนั้นเหนือกว่าBitcoin มาก สามารถเชื่อมโยงระบบนิเวศโดยการแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้ด้วยความมั่นใจและอยู่ในรูปแบบของการกระจายศูนย์

Ming เน้นกรณีใช้งานบล็อกเชนเชื่อมโยงกับระบบนิเวศที่แตกต่างกันเพื่อสร้างคุณค่าใหม่บนอินเทอร์เน็ต โดยกล่าวถึงเครือข่าย Food Trust ของ IBM ที่ Carrefour และคู่ค้ารายอื่น ๆ นำไปใช้งานกับห่วงโซ่อุปทานเพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีความโปร่งใสมากยิ่งขึ้น

Vinay ชี้ว่า มีประเด็นถกเถียงกันมากเกี่ยวกับการดำเนินการบล็อกเชนโดยรัฐบาลและอุตสาหกรรมว่าเป็นการกระจายศูนย์อย่างแท้จริงหรือไม่ เขามองว่ามันไม่ใช่ประเด็นสำคัญ มีหลายแนวทางในการทำความเข้าใจการรวมศูนย์ (centralization) และการกระจายศูนย์ (decentralization)

“เรากำลังพูดถึงเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่เหมาะสมที่สามารถเชื่อมโยงระบบนิเวศที่แตกต่างเข้าด้วยกันได้ ซึ่งเป็นโลกาภิบาลรูปแบบใหม่” Mohan กล่าว

ในอีกแง่หนึ่ง Tan กล่าวว่า นอกจากนี้คริปโตเคอร์เรนซี บล็อกเชน สามารถสร้างระบบนิเวศใหม่ในอุตสาหกรรมให้สามารถทำงานแลกเปลี่ยนข้อมูล สร้างกรณีใช้งานใหม่ ๆ แล้วยังสามารถสร้างปฏิสัมพันธ์ทางสังคมรูปแบบใหม่อีกด้วย

ยิ่งไปกว่านั้น คริปโตเคอร์เรนซี บล็อกเชน เกี่ยวข้องกับการทำงานร่วมกัน มันเป็นเทคโนโลยีทำงานร่วมกันที่ช่วยให้คนอื่น ๆ แลกเปลี่ยนและใช้ข้อมูลร่วมกันได้ นั่นเป็นเรื่องน่ามหัศจรรย์สำหรับรัฐบาล สถาบันเอกชน และสังคมที่สามารถใช้รังสรรค์สิ่งใหม่ ๆ

ในทำนองเดียวกัน Yeo ชี้ว่า บล็อกเชื่อมโยงระบบนิเวศที่แตกต่างและสร้างเฟรมเวิร์กที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงสำหรับรัฐและอุตสาหกรรม “สิ่งนี้เป็นอุตสาหกรรมคุณค่าใหม่ คุณสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลและสร้างสัญญาอัจฉริยะในส่วนต่าง ๆ ของระบบนิเวศ นี่คือเฟรมเวิร์กใหม่ที่สมบูรณ์แบบ” เขากล่าว

Lim กล่าวว่า ความร่วมมือกัน ทำให้บล็อกเชนและโครงการที่แตกต่างกันประสบความสำเร็จ เขาเชื่อว่าการเชื่อมต่อระหว่าง Hyperledger, Ethereum และโครงการบล็อกเชนอื่น ๆ จะเพิ่มขึ้นอีกในหลายปีข้างหน้า

“เราต้องพิสูจน์คุณค่าของเทคโนโลยีและร่วมมือกันอย่างแข็งขัน บล็อกเชนเป็นการเชื่อมโยงระบบนิเวศ ดังนั้น การร่วมมือระหว่างกันมากขึ้นจึงมีความสำคัญยิ่ง” เขากล่าว

ที่มา :   cointelegraph.com
——————————————————–
สนับสนุนโดยกลุ่ม Coin Thai Talk : https://www.fb.com/groups/CoinThaiTalk/ กลุ่มใหม่ของคนรักคริปโต