เกือบครึ่งหนึ่งของโทเคนใหม่หนึ่งล้านรายการที่เปิดตัวตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนเป็นเหรียญมีม (memecoin) ที่สร้างขึ้นบนเครือข่าย Solana
มีการสร้างโทเคนใหม่มากกว่าหนึ่งล้านโทเคนนับตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน โดยมีโทเคนใหม่มากกว่า 370,000 โทเคนเกิดขึ้นบน Ethereum ในขณะที่โทเคนใหม่มากกว่า 640,000 โทเคน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเหรียญมีม (memecoin) เปิดตัวบน Solana
ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน มีโทเคนใหม่ 372,642 รายการเปิดตัวบนเครือข่าย Ethereum โดย 88% เปิดตัวบนบล็อกเชนเลเยอร์ 2 ของ Coinbase ที่ชื่อว่า Base เครือข่ายเลเยอร์ 2 นี้ ได้เห็นกิจกรรมปะทุขึ้นที่เกิดจาก degens แห่กันไปยังเครือข่ายต้นทุนต่ำเพื่อเปิดตัวเหรียญมีมใหม่ ๆ
โทเคนใหม่ ๆ เปิดตัวบน Ethereum และบล็อกเชนที่เกี่ยวข้อง ที่มา : Dune Analytics
Conor Grogan กรรมการบริหารของ Coinbase อ้างตัวเลขที่คล้ายคลึงกันในโพสต์ X เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม โดยระบุว่านี่คือจำนวนโทเคนที่สร้างขึ้นบน Ethereum สองเท่าของจำนวนโทเคนที่สร้างขึ้นระหว่างปี 2015 ถึง 2023
มูลค่าที่ถูกล็อกทั้งหมด (TVL) บน Base เพิ่มขึ้นประมาณ 630% ตั้งแต่ต้นปี 2024 (ข้อมูลจาก L2beat) แรงขับเคลื่อนหลักมาจากความนิยมที่เพิ่มขึ้นของ เหรียญมีมต่าง ๆ
ในช่วงเวลาเดียวกัน มีการสร้างโทเคนใหม่บน Solana จำนวน 643,227 โทเคน (ข้อมูลจากแพลตฟอร์มวิเคราะห์ Step Finance)
มีการเปิดตัวโทเคนใหม่บน Solana มากกว่า 640,000 โทเคน ตั้งแต่ 1 เมษายน
จากข้อมูลของ Dune Analytics แพลตฟอร์มติดตามจำนวนโทเคนใหม่ที่เปิดตัวบน Solana พบว่า จากโทเคนใหม่ 643,000 โทเคนที่เปิดตัวบน Solana มีจำนวน 466,914 โทเคนเป็นโทเคนเหรียญมีม
CoinMarketCap ลิสต์เหรียญใหม่ 500 เหรียญในช่วง 30 วันที่ผ่านมา โดยส่วนใหญ่เป็นเหรียญมีม
แพลตฟอร์มวิเคราะห์คริปโต CoinGecko ได้เพิ่มหมวดหมู่ (category) เหรียญมีม (memecoin) ไว้แล้ว ซึ่งมีการระบุเหรียญมากกว่า 600 เหรียญ โดยมีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ $52.7 พันล้านดอลลาร์ คิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของมูลค่าตลาดเหรียญ USDT ของ Tether
โพสต์ X ของ Grogan ได้รับการตอบรับเชิงลบอย่างมากจากชุมชนคริปโต โดยหลายคนอ้างว่ามีมเหรียญเป็นภัยคุกคามต่อคุณค่าของคริปโต
มีผู้แสดงความคิดเห็นคนหนึ่งเรียกสิ่งนี้ว่า “ผลลัพธ์ที่เป็นลบ” เนื่องจากมีการแพร่ระบาดของกลโกงและ rug pulls เงินเหล่านี้สามารถนำไปลงทุนในโครงการที่ “ถูกต้อง” ที่ใหญ่กว่าได้ แต่แทนที่จะเป็นเช่นนั้น เงินเหล่านี้กลับอยู่ในมือของมิจฉาชีพ
ผู้คนจำนวนมากมองว่า การเพิ่มขึ้นของจำนวนเหรียญมีมใหม่ ๆ นั้น เป็น “กลยุทธ์สแปมเพื่อฟาร์มบอทซุ่มยิง (sniper bots)” ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อกว้านซื้อเหรียญมีมใหม่ ๆ โดยอัตโนมัติ หวังที่จะเก็งกำไรจากราคาที่พุ่งขึ้น
การตรวจสอบของ Cointelegraph ในเดือนเมษายน พบว่า เหรียญมีมใหม่บน Base นั้น 1 ใน 6 เป็นการหลอกลวง และมากกว่า 90% มีช่องโหว่ด้านความปลอดภัย
แม้จะถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก แต่เหรียญมีมกลายเป็นกลุ่มเหรียญคริปโตที่ทำกำไรได้มากที่สุดในไตรมาสแรก
ที่มา : cointelegraph.com