แม้ราคา Bitcoin จะฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อย แต่ยังไม่ใช่สัญญาณขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง นักวิเคราะห์ด้านเทคนิคคาดการณ์ว่าราคาอาจจะร่วงลงสู่ช่วง $50,000 ก่อนที่จะดีดตัวกลับขึ้นไปทำลายสถิติสูงสุดอีกครั้ง
ตลาดคริปโตเคอเรนซีเริ่มชะลอตัวลงในวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยราคา Bitcoin (BTC) ลดลงแตะ $63,300 หลังจากหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ เพิ่มแรงกดดันต่อบริษัทคริปโตหลายแห่ง
ราคา Bitcoin ที่พุ่งขึ้นไปแตะ $65,000 ในช่วงต้นวันจันทร์นั้นร่วงลงอย่างรวดเร็ว และเผชิญแรงเทขายต่อเนื่องหลังจากบริษัทหลักทรัพย์ Robinhood (HOOD) เปิดเผยว่า Robinhood Crypto ซึ่งเป็นบริษัทในเครือได้รับ Wells Notice จากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) ซึ่งมักเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการดำเนินการทางกฎหมาย
แม้ราคาจะร่วงลง แต่ภาพรวมถือว่าปรับตัวลดลงเล็กน้อย โดยราคา Bitcoin ลดลง 1.5% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
ราคาของสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ มีการเปลี่ยนแปลงที่หลากหลาย โดยราคา Ethereum (ETH), Dogecoin (DOGE), Shiba Inu (SHIB) และ MATIC ของเครือข่าย Polygon ร่วงลงประมาณ 2-3% ในขณะที่ Solana (SOL) และ XRP ของ Ripple เพิ่มขึ้น 4-6%
แม้ตลาดมีการปรับตัวลง แต่กองทุนป้องกันความเสี่ยงด้านคริปโตอย่าง QCP Capital กลับมองเห็นสัญญาณความต้องการซื้อ Call Option ของ Bitcoin สำหรับเดือนกันยายนที่ราคา $75,000 และ $100,000 เพิ่มขึ้น ซึ่งสะท้อนถึงความคาดหวังที่ราคา Bitcoin จะปรับตัวสูงขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
“เรากำลังเห็นสัญญาณบวกบางอย่างเกี่ยวกับความผันผวน และอัตราดอกเบี้ยเงินทุน หลังจากราคาฟื้นตัวขึ้นจากวันศุกร์และตลอดช่วงสุดสัปดาห์”
ติดตามข่าวคริปโตก่อนใครได้ที่ https://www.siambitcoin.com/
