โดยสรุป
- รายงานจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ระบุว่า เกาหลีเหนือได้รับเงินตราต่างประเทศเกือบครึ่งหนึ่งจากการโจมตีทางไซเบอร์
- การโจมตีบริษัทคริปโตของเกาหลีเหนือ สร้างความสูญเสียมูลค่ารวม 3 พันล้านดอลลาร์ ตั้งแต่ปี 2017 ถึง 2023
คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (United Nations Security Council) กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่า เกาหลีเหนือได้รับเงินตราต่างประเทศประมาณ 50% จากการโจมตีทางไซเบอร์ รวมถึงการโจมตีบริษัทคริปโตเคอร์เรนซี สำนักข่าว Yonhap ของเกาหลีใต้รายงานเมื่อวันศุกร์ อ้างอิงจากรายงานของสหประชาชาติ
รายงานของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้ประเมินการโจมตีทางไซเบอร์ที่ต้องสงสัย 58 ครั้งต่อบริษัทที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเคอร์เรนซี ตั้งแต่ปี 2017 ถึง 2023 (ตามที่ Yonhap รายงาน) ระบุว่าการแฮ็กโดยเกาหลีเหนือเหล่านี้สร้างความสูญเสียทางการเงินประมาณ 3 พันล้านดอลลาร์ เงินที่ถูกขโมยไปนั้นเกาหลีเหนือนำไปใช้เพื่อระดมทุนประมาณ 40% ของค่าใช้จ่ายในการพัฒนาอาวุธอานุภาพทำลายล้างสูง
คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติอาจใช้รายงานนี้เป็นเหตุผลในการเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรต่อเกาหลีเหนือ สำนักข่าว Nikkei ของญี่ปุ่นรายงานเรื่องนี้เมื่อวันศุกร์
รายงานล่าสุดของสหประชาชาติ (UN) สอดคล้องกับการประมาณการของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา (US) ในปีที่แล้ว เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากรัฐบาลของประธานาธิบดี Joe Biden ของสหรัฐฯ รายงานเมื่อเดือนมิถุนายนปีว่า เกือบครึ่งหนึ่งของรายได้เงินตราต่างประเทศของเกาหลีเหนือมาจากการโจมตีทางไซเบอร์
กลุ่มแฮ็กเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากเกาหลีเหนือ เช่น Lazarus และ Kimsuky ถูกระบุว่าเป็นผู้ก่อการเบื้องหลังการโจมตีทางไซเบอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกคริปโต รวมถึงการโจมตี Harmony, Stake.com และ Coincheck กลุ่มเหล่านี้มักใช้ cryptocurrency mixers เพื่อบดบังแหล่งที่มาของเงินทุน
ที่มา : theblock.co