การสุญเสียจากการแฮ็กคริปโต ลดลงเกือบ 50% ในปี 2023 TRM Labs วิจัยล่าสุด
TRM Labs ให้เครดิตเรื่องมาตรการความปลอดภัยที่ดีขึ้น การบังคับใช้กฎหมาย และความร่วมือในวงการ ทำให้การแฮ็กลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
TRM Labs บริษัทอัจฉริยะบล็อกเชน เผยว่าความสูญเสียจากการแฮ็กคริปโตเคอร์เรนซีในปี 2023 นั้น ลดลงมากกว่า 50% เมื่อเทียบกับปี 2022 และให้เครดิตกับการปรับปรุงความปลอดภัยในวงการคริปโต
รายงาน TRM Labs เผยแพร่ล่าสุด อ้างถึงการวิจัยเกี่ยวกับปัจจัยสำคัญที่อยู่เบื้องหลังการโจรกรรมทางไซเบอร์ที่ลดลงอย่างมาก เผยให้เห็นว่า การสูญเสียจากการแฮ็กโครงการคริปโตลดลงเหลือประมาณ $1.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2023 น้อยกว่าครึ่งจาก $4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐของการขโมยจากโปรโตคอลอินเทอร์เน็ตในปี 2022
รายงานระบุการแฮ็ก 160 รายการ การสูญเสียลดลงมากกว่า 50% TRM Labs ระบุว่าตัวเลขที่ลดลงนี้เกิดจากมาตรการการรักษาความปลอดภัยที่ปรับปรุงดีขึ้น โดยวงการคริปโตเคอร์เรนซีได้ผนวกเอาระบบติดตามธุรกรรมแบบเรียลไทม์และการตรวจจับความผิดปกติไว้ด้วย ความก้าวหน้าเหล่านี้เสริมความแข็งแกร่งให้กับกระเป๋าเงินดิจิทัลและแพลตฟอร์มตลาด สร้างการป้องกันที่แข็งแกร่งต่อการละเมิดที่อาจเกิดขึ้นได้
อุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซีเผชิญกับความท้าทายในปี 2022 ตลาดตกต่ำอย่างมีนัยสำคัญและการโจรกรรมข้อมูลจำนวนมากมาจากการเจาะระบบและแฮ็กข้อมูลดิจิทัล เมื่อกลางเดือน Chainalysis ก็ยกให้ปี 2022 เป็น “ปีที่กิจกรรมการแฮ็กใหญ่ที่สุด”
การวิจัยของ TRM Labs ระบุว่า หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทั่วโลกได้สนับสนุนความพยายามในการต่อต้านอาชญากรรมทางไซเบอร์ในวงการสกุลเงินดิจิทัล การดำเนินการร่วมกัน การตอบสนองที่รวดเร็ว และกลยุทธ์การกู้คืนสินทรัพย์ที่ดีขึ้นได้เพิ่มโอกาสในการตรวจจับและการดำเนินคดี ทำให้แฮ็กเกอร์อ่อนกำลัง
ในปี 2023 วงการคริปโตได้แก่ ตลาดซื้อขายคริปโต เครือข่ายบล็อกเชน และผู้ให้บริการ wallet ได้นำแนวทางการทำงานร่วมกันมาใช้โดยแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับช่องโหว่ ภัยคุกคามและเหตุการณ์ละเมิด เพื่อสร้างเกราะป้องกันจากอาชญากรไซเบอร์
TRM Labs กล่าวว่า มากกว่า 60% ของการสูญเสียทั้งหมดในปี 2023 นั้น เป็นผลมาจากการโจมตีโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับการขโมยคีย์ส่วนตัวหรือ seed phrases ส่วนใหญ่มาจากการโจมตีเป้าหมายครั้งใหญ่โดยเฉพาะ โดยการแฮ็กสิบอันดับแรกคิดเป็น 70% ของเงินทุนที่ถูกขโมยทั้งหมด
แม้รายงานระบุเหตุการณ์แฮ็กที่ลดลง แต่ก็เน้นย้ำถึงการเปลี่ยนแปลงจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ โดยตอกย้ำว่าวงการคริปโตเคอร์เรนซีและการบังคับใช้กฎหมายจะต้องระวังและปรับตัวเพื่อรักษาแนวโน้มเชิงบวกต่อภูมิทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วด้วย
ที่มา : cointelegraph.com
