Changpeng Zhao (CZ) อดีตซีอีโอ Binance ไม่สามารถได้รับอนุญาตให้ออกจากสหรัฐฯ ได้ ก่อนการพิจารณาคดีในเดือนกุมภาพันธ์ของเขาในข้อหาละเมิดกฎหมาย Bank Secrecy Act อัยการของรัฐบาลกลางกล่าวในเอกสารที่ยื่นเมื่อวันพุธ
Zhao ยอมรับสารภาพและลาออกจากซีอีโอตลาดซื้อขายคริปโตที่เขาก่อตั้งเมื่อวันอังคาร พร้อมทั้ง Binance สารภาพในข้อหาทางอาญาและทางแพ่งหลายข้อหาด้วยกันที่เชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับผู้ใช้งานในสหรัฐฯ และผู้ใช้งานจากภูมิภาคต่าง ๆ ที่ใช้แพลตฟอร์มโดยไม่ทำความรู้จักลูกค้า (KYC) และละเมิดการต่อต้านการฟอกเงิน Binance ตกลงจ่ายค่าปรับ $4.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ถือเป็นหนึ่งในค่าปรับบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ
ในเอกสารยื่นเมื่อวันพุธ อัยการกล่าวว่า Zhao เป็นพลเมืองของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) มี “ความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับสหรัฐฯ น้อยมาก” และอาจหลบหนีไม่กลับมาหากได้รับอนุญาตให้ออกไป พวกเขากล่าวว่าไม่ได้ขอให้ถูกจำคุกก่อนพิจารณาคดี เพียงแต่ว่าเขาจะต้องอยู่ในสหรัฐฯ ตามกำหนดการพิจารณาคดีจะมีขึ้นในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2024
ภายใต้เงื่อนไขของข้อตกลงวางพันธบัตรนั้น Zhao สามารถออกจากสหรัฐฯ โดยวางเงิน $15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในบัญชีทรัสต์ ลงนามในพันธบัตรรับรองส่วนบุคคลมูลค่า $175 ล้านดอลลาร์สหรัฐ …
อัยการกล่าวว่าการยื่นเมื่อวันพุธไม่เพียงพอ หาก Zhao ไม่กลับยังสหรัฐฯ พวกเขาไม่สามารถประกันพันธบัตรมูลค่า $175 ล้านดอลลาร์สหรัฐได้เลย เนื่องจากทรัพย์สินส่วนใหญ่ของเขาอยู่นอกประเทศ และ Zhao ก็ร่ำรวมมากพอที่เขาจะสามารถจ่ายเงินทุนส่วนที่เหลือได้โดยไม่มีปัญหา พวกเขายังบอกว่ายังไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างสหรัฐฯ กับสหรัฐอาหรับเอมริเรตส์
เมื่อวันอังคาร ทนายของ Zhao บอกว่าการบังคับให้เขาอยู่ในสหรัฐฯ ก่อนการพิจารณาคดีนั้นจะเป็นเรื่องยากลำบากสำหรับเขาและครอบครัว กรรยาและลูก ๆ ไม่สามารถย้ายไปสหรัฐฯ ได้ ในช่วงหลายเดือนระหว่างรอพิจารณาคดีจนถึงเดือนกุมภาพันธ์
ผู้พิพากษา Brian Tsuchida ซักถามว่า Zhao สมัครใจเดินทางมายังสหรัฐฯ เพื่อรายงานตัวและสารภาพผิดหรือไม่ นั่นหมายความว่าไม่มีความเสี่ยงร้ายแรงในการหลบหนี
ปัจจุบัน Zhao อยู่ในสหรัฐฯ จนกระทั่งถึงวันที่ 27 พฤศจิกายน เป็นอย่างน้อย หากผู้พิพากษา Richard Jones เลือกไม่ตรวจสอบการยื่นของ DOJ ภายในเวลา 17.00 น. วันนั้น Zhao จะมีอิสระกลับไปยังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้ แต่ต้องกลับมายังสหรัฐฯ ภายในวันที่ 10 กุมภาพันธ์
ที่มา : coindesk.com
