ตลาดซื้อขายคริปโตของสหรัฐฯ ตกเป็นเป้าล่าสุดจาก สำนักงาน ก.ล.ต.สหรัฐฯ ในการดำเนินการคดีคล้าย ๆ กันกับบริษัทอื่น ๆ ในชั้นศาล
- Kraken เผชิญปัญหาทำนองเดียวกันกับ Coinbase และ Binance ตกเป็นเป้าในข้อกล่าวหาของสำนักงาน ก.ล.ต.สหรัฐฯ ว่า บริษัทดำเนินงานโดยไม่ได้จดทะเบียนเป็นธุรกิจหลักทรัพย์ในสหรัฐฯ
- ก.ล.ต.สหรัฐฯ ลิสต์โทเคนจำนวนมากที่พิจารณาว่าเป็นหลักทรัพย์ที่ Kraken ซื้อขาย
ตลาดซื้อขายคริปโต Kraken ปะปนเงินทุนของลูกค้าและองค์กรขณะที่ดำเนินการเป็นโบรกเกอร์ ตัวแทนหักบัญชี และดีลเลอร์ ที่ไม่ได้จดทะเบียน สำนักงาน ก.ล.ต.สหรัฐฯ กล่าวหาในคดีใหม่ล่าสุดเมื่อวันจันทร์
หน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินกล่าวหาว่า บริษัทในซานฟรานซิสโกละเมิดกฎหมายหลักทรัพย์ของรัฐบาลกลางในคดีฟ้องร้องทำนองเดียวกันกับกรณีแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตอื่น ๆ การฟ้องร้องคดีเมื่อวันจันทร์อ้างว่า Kraken สร้าง “ความเสี่ยงที่สำคัญ” โดยปะปนคริปโตของลูกค้ามูลค่า $33 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ กับสินทรัพย์องค์กรของตน โดยอ้างถึงผู้ตรวจสอบอิสระของ Kraken
“ในทำนองเดียวกัน Kraken ได้ถือครองเงินสดของลูกค้ามากกว่า $5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และยังปะปนเงินสดของลูกค้าบางส่วนกับเงินสดของตัวเองด้วย” ข้อกล่าวหายังระบุอีกว่า “จริง ๆ แล้ว Kraken ได้ใช้จ่ายในการดำเนินงานโดยตรงจากบัญชีธนาคารที่ถือเงินของลูกค้าหลายครั้งด้วยกัน”
ก.ล.ต.สหรัฐฯ อ้างว่า Kraken ดำเนินการเป็นโบรกเกอร์ ตัวแทนหักบัญชี และดีลเลอร์ ที่ไม่ได้จดทะเบียน คล้ายกับข้อกล่าวหาที่มีต่อ Binance และ Coinbase เมื่อต้นปีนี้
หน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินของรัฐบาลกลาง ก่อนหน้านี้ได้ระบุโทเคนจำนวนหนึ่งที่ถือว่าเป็นหลักทรัพย์ที่ไม่ได้จดทะเบียน อาทิ Algorand token (ALGO), Polygon MATIC และ NEAR ตามคำฟ้อง Kraken มีบทบาทโดยตรงในการโปรโมตโทเคนเหล่านี้แก่นักลงทุนทั่วไป
การฟ้องร้องคดี ก.ล.ต.สหรัฐฯ ขอห้ามไม่ให้ Kraken ดำเนินการเป็นตลาดซื้อขายที่ไม่ได้จดทะเบียนอย่างถาวร
“เราไม่เห็นด้วยกับคำฟ้องของ ก.ล.ต.สหรัฐฯ Kraken ขอยืนหยัดในมุมมองของเราว่าเราไม่ได้ลิสต์หลักทรัพย์และวางแผนจะปกป้องจุดยืนของเราอย่างจริงจัง” Kraken แถลงการณ์ “ก.ล.ต.สหรัฐฯ ได้ท้าทายตลาดซื้อขายคริปโตซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้จดทะเบียนโดยไม่มีกฎหมายรองรับจุดยืนของพวกเขาและไม่มีแนวทางที่ชัดเจน แม้จะมีการคัดค้านจากฝ่ายนิติบัญญัติ แต่ ก.ล.ต.ก็ยังดำเนินการทางกฏหมายกับตลาดซื้อขายคริปโตเหล่านี้ นับเป็นเวลาหลายปีแล้วที่เราสนับสนุนให้มีการกำกับควบคุมตลาดในสหรัฐฯ ที่มีประสิทธิภาพเพื่อจัดการกับความเสี่ยงและผลประโยชน์เฉพาะตัวที่คริปโตมีต่อทุกคน เราเชื่อว่าการดำเนินการของสภาคองเกรสเป็นแนวทางที่เหมาะสมที่สุดในการแก้ไขความชัดเจนด้านกฎระเบียบในสหรัฐฯ น่าผิดหวังที่ยังเห็น ก.ล.ต. ยังดำเนินการแนวทางของตนในการบังคับใช้ ซึ่งเป็นอันตรายมากต่อผู้บริโภคชาวอเมริกัน ขัดขวางนวัตกรรม และทำลายความสามารถในการแข่งขันของสหรัฐฯ ทั่วโลก”
ตลาดฯ ยังเผยแพร่บล็อกโพสต์สรุปถึงจุดยืนของตนเองอีกด้วย
ที่มา : coindesk.com
