อดีตซีอีโอ FTX ต้องเผชิญกับข้อหาสมรู้ร่วมคิดและการฉ้อโกง 7 กระทง ศาลนิวยอร์กจะตัดสินชะตากรรมของเขา
Cointelegraph รายงานภาคสนามในนิวยอร์กเกี่ยวกับการพิจารณาคดีต่อ Sam “SBF” Bankman-Fried อดีตซีอีโอ FTX เรื่องราวยังคงดำเนินต่อไป ตามปฎิทินด้านล่างนี้
27 ตุลาคม : Bankman-Fried ให้การต่อหน้าคณะลูกขุน
Sam Bankman-Fried ตระหนักดีว่า “ผู้คนจำนวนมากเจ็บปวด” เนื่องจากการล่มสลายของ FTX แต่ปฏิเสธการกระทำผิดใด ๆ จากความสัมพันธ์ระหว่างตลาดกับ Alameda Research
“ฉันทำผิดเล็ก ๆ น้อย ๆ และความผิดพลาดใหญ่ ๆ ไม่น้อย” เขาบอกกับคณะลูกขุนในนาทีแรกของการให้การเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม คณะลูกขุนฟังคำให้การของ Bankman-Fried เป็นครั้งแรก หลังจากมีการพิจารณาคดีของเขาเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม โดยไม่มีคณะลูกขุนอยู่ด้วย
เมื่อเปรียบเทียบกับวันก่อนหน้า Bankman-Fried ดูเหมือนว่าเตรียมตัวตอบคำถามดีขึ้นมากเมื่อเช้านี้ เขาเล่าให้คณะลูกขุนฟังเกี่ยวกับการก่อตั้ง FTX ในเดือนแรก การดำเนินธุรกิจ และความสัมพันธ์กับ Alameda ตามคำให้การของเขา Alameda เป็นผู้ให้บริการสภาพคล่องหลักและดูแลสภาพคล่องของ FTX นั่นหมายความว่าจะต้องรับผิดชอบครอบคลุมการสูญเสียของลูกค้าหากกลไกความเสี่ยงของ FTX ล้มเหลว
จากบทบาทของ Alameda ที่มีต่อ FTX จึงได้รับฟีเจอร์ที่กำหนดเองในโค้ด FTX เช่น ความสามารถในการติดลบได้โดยไม่ต้องเปิดใช้กลไกความเสี่ยง เขาบอกว่า การยกเว้นนั้นมีความจำเป็นเพื่อหลีกเลี่ยงการชำระบัญชี (liquidation) ของ Alameda ที่อาจเกิดขึ้น อาจส่งผลเสียต่อตลาดคริปโต
Bankman-Fried ยังกล่าวว่า ในฐานะลูกค้าและผู้ให้บริการสภาพคล่องแก่ FTX นั้น Alameda สามารถยืมเงินจากตลาดซื้อขายคริปโตได้หากมีหลักประกัน ตามเงื่อนไขการใช้งานของ FTX ผู้กู้ยืมจะไม่มีข้อจำกัดใด ๆ ในการใช้เงินทุนที่ยืมมาก นั่นหมายความว่า Alameda สามารถใช้เงินทุนในการซื้อขายได้
อดีตซีอีโอของ FTX ยังกล่าวอีกว่า Alameda จัดการธุรกรรมผ่านธนาคารในนามของ FTX โดยทำหน้าที่เป็นผู้ประมวลผลการชำระเงินสำหรับแพลตฟอร์ม
จากการตอบข้อซักถามว่าเขารู้หรือไม่ว่าเงินฝากลูกค้า FTX ในบัญชีของ Alameda ถูกติดตามอย่างไร “ฉันคิดว่าฉันมีความเข้าใจที่ดีกว่าที่ฉันเคยทำ”
Bankman-Fried ยังชี้ให้เห็นว่า เงื่อนไขการใช้งานของตลาดมีข้อกำหนดเกี่ยวกับการเรียกเงินทุนคืน (clawback ) จากเอกสารนั้นการซื้อขายมาร์จิ้นและฟิวเจอร์สจะอยู่ภายใต้ข้อกำหนดนี้
“ยอดเงินคงเหลือในบัญชีของคุณอาจถูกเรียกคืนเนื่องจากการสูญเสียที่ได้รับจากผู้ใช้รายอื่น”
ข้อกำหนดนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้แน่ใจว่าหาก FTX ไม่สามารถครอบคลุมความสูญเสียที่เกี่ยวข้องกับมาร์จิ้นและฟิวเจอร์ ความเสียหายก็จะสามารถแชร์กับลูกค้าทุกรายได้
โดยรวมแล้ว คำให้การของเขาแย้งว่าความสัมพันธ์ของบริษัทได้รับการคุ้มครองโดยเอกสารทางกฎหมาย แม้ว่าจะมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นในช่วงขยายตัวอย่างรวดเร็วในช่วงตลาดกระทิงก็ตาม Bankman-Fried จะถูกฝ่ายจำเลยซักปากคำและตามมาด้วยฝ่ายอัยการต่อไป
26 ตุลาคม : อัยการพักคดี
ผู้เข้าร่วมการพิจารณาคดี Sam Bankman-Fried เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม มีช่วงเช้าน่าผิดหวัง เนื่องจากทนายทั้งสองฝ่ายซักคำปากคำถามซ้ำ ๆ กันไม่รู้จบ ทำให้ผู้พิพากษาศาลแขวง Kaplan ขัดขวางคำให้การของพยานและกระตุ้นให้ทนายความเดินหน้าต่อไป
อัยการพักคดีเมื่อตอนเช้า หลังจากที่ Mark Troiano เจ้าหน้าที่ FBI ให้การสั้น ๆ ในฐานะพยานของรัฐคนสุดท้าย จากการวิเคราะห์ของเขา กลุ่มมากกว่า 300 ใน Siganal ที่มี Bankman-Fried ส่วนใหญ่เปิดใช้งานฟีเจอร์ลบอัตโนมัติ (uto-delete) ซึ่งจะลบข้อความหลังจากระยะเวลาที่กำหนด
หลังจากพักช่วงสั่น ๆ ฝ่ายจำเลยได้เรียก Krystal Rolle ทนายความจากบาฮามาสซึ่งเป็นตัวแทนของ Bankman-Fried และ FTX ในเดือนพฤศจิกายน 2022 โดย Rolle กล่าวว่า เธอเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มที่พบกับคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ของบาฮามาสเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน ที่เกี่ยวข้องกับการล่มสลายของ FTX
แม้ว่าคำให้การของเธอไม่ได้ให้ข้อมูลใหม่มากนัก แต่เธอก็แบ่งปันกับคณะลูกขุนว่า FTX โอนสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งหมดไปยังหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินของบาฮามาสในวันเดียวกับที่ศาลออกคำสั่ง
Joseph Pimbley ที่ปรึกษาทางการเงินดีกรีปริญญาเอกสาขาฟิสิกส์ เป็นพยานคนที่สองที่นำเสนอโดยฝ่ายจำเลย งานของเขาในคดีนี้คือการวิเคราะห์โค้ดและฐานข้อมูลของ FTX
Pimbley พบว่า ในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว FTX มีสินทรัพย์มากกว่า $5.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากบัญชีเทรดมาร์จิน การให้ยืม หรือสัญญาฟิวเจอร์ที่เปิดใช้งาน จำนวนเงินนี้ยังไม่รวมยอดคงเหลือของ FTX และ Alameda Research ในช่วงไต่สวน อัยการชี้ว่าฐานข้อมูล FTX ไม่ได้สะท้อนบัญชีธนาคารของตนในขณะนั้นอย่างถูกต้อง
ที่มา : cointelegraph.com
