ธนาคารแห่งประเทศจีน (BoC) เปิดเผยว่าได้ร่วมมือกับ China Unicom and China Telecom ทดสอบใช้งานระบบการชำระเงินผ่าน SIM card และ NFC (near-field communication) ผูกติดกับเงินหยวนจีน ธนาคารฯ อธิบายว่า การนำร่องจะทดสอบโดยผู้ใช้งานที่ถูกคัดเลือกและพื้นที่เฉพาะเจาะจง และปัจจุบันรองรับโทรศัพท์ Android เท่านั้น

จีนยกระดับเงินหยวนดิจิทัลใช้งานผ่าน SIM Card และทำธุรกรรมแบบไร้สัมผัส

สกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง (central bank digital currency, CBDC) ที่เรียกว่า “e-CNY” หรือที่รู้จักกันในชื่อเงินหยวนดิจิทัล (digital yuan) ได้เห็นโครงสร้างพื้นฐานเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ธนาคารแห่งประเทศจีน (BoC) ประกาศว่า CBDC ของประเทศกำลังทดสอบการชำระเงินผ่าน SIM card และ NFC

ธนาคารฯ เปิดเผยว่า ได้ร่วมมือกับไชน่า ยูนิคอม (China Unicom) และ ไชน่า เทเลคอม (China Telecom) สานต่อเงินหยวนดิจิทัลให้รุดหน้าต่อไป เพื่อ “ปลดล็อคขีดความสามารถใหม่ ๆ” การจัดเก็บเงินดิจิทัลเริ่มจากใช้ SIM card เป็น “กระเป๋าเงินฮาร์ดแวร์ (hardware wallet)” ที่ติดตั้งโดยสถาบันการเงินของรัฐ “ผู้ใช้งานเงินหยวนดิจิทัลเพียงแค่ติดตั้ง SIM card ที่ออกโดยผู้ให้บริการโทรคมนาคมบนมือถือของพวกเขา ล็อกอินแอพเงินหยวนดิจิทัล แล้วเปิดใช้งานกระเป๋าเงินฮาร์ดแวร์ SIM card” ธนาคารฯ อธิบายในแถลงการณ์

ธนาคารฯ เสริมว่า

ระหว่างใช้งานกระเป๋าเงินฮาร์ดแวร์ SIM card ยอดเงินคงเหลือแชร์กับกระเป๋าเงินหลัก (main wallet) เพื่อลดความจำเป็นเรื่องการเติมเงินแยกต่างหากและทำให้การชำระเงินสะดวกและใช้งานง่ายมากขึ้นนั้น จะรองรับการชำระเงินแบบออฟไลน์

ธนาคารฯ เน้นให้ความสำคัญสนับสนุนการพัฒนากระเป๋าเงินฮาร์ดแวร์ SIM card และการประยุกต์ใช้เงินหยวนดิจิทัล ธนาคารฯ กล่าวว่า จะขยายกรอบการใช้งาน e-CNY ต่อไป โดยตรวจสอบแอพพลิเคชั่นที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมต่าง อาทิ การขนส่งทางราง การบริโภคในชีวิตประจำวัน การใช้งานในสถาบันการศึกษา การช้อปปิ้งออนไลน์ การชำระเงินค่าสาธารณูปโภค ธุรกิจค้าปลีก และการฝึกอบรมทางการศึกษา ซึ่งสอดคล้องกับเทรนด์อินเทอร์เน็ตแห่งสรรพสิ่ง (IoT) ธนาคารฯ มุ่งเน้นทำให้ SIM card สามารถใช้งานเข้ากับอุปกรณ์ IoT จำนวนมากได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ก่อนหน้านี้เปิดตัวเงินหยวนดิจิทัลในจีนานเพื่อจ่ายค่าโดยสารรถสาธารณะ Shanghai Clearing House ได้ขยายการรองรับสกุลเงินดิจิทัลในเดือนมิถุนายน ข้อมูล ณ ปัจจุบัน มีประเทศที่เปิดใช้งานสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง (CBDC) แล้วจำนวน 11 ประเทศ และรายงานวิจัยระบุว่า มีประเทศที่พิจารณานำมาใช้งานอยู่ทั้งสิ้น 130 ประเทศ คิดเป็น 98% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมของโลก ในประเทศจีนทดสอบ CBDC ครอบคลุมประชากร 260 ล้านคนแล้ว และครอบคลุมสถานการณ์เศรษฐกิจที่หลากหลายอีกด้วย

ที่มา : news.bitcoin.com