สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา (SEC) อ้างว่า FTX Token (FTT) ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลดั้งเดิมของเว็บเทรดสกุลเงินดิจิทัลที่ล้มละลาย FTX เป็นหลักทรัพย์
การเรียกร้องดังกล่าวเป็นการร้องเรียนที่ยื่นต่อศาลแขวงสหรัฐในเขตทางตอนใต้ของนิวยอร์กเมื่อวันพุทธ เพื่อฟ้อง Caroline Ellison อดีตซีอีโอของ Alameda Research และ Gary Wang ผู้ร่วมก่อตั้ง FTX
FTT Token ถูกขายเป็นสัญญาการลงทุน
ตามเอกสารพบว่า ทีมผู้บริหารของ FTX ได้ขาย FTT เป็นสัญญาการลงทุนตั้งแต่ช่วงเริ่มต้น จากนั้น บริษัทใช้เงินที่ได้จากการขายโทเคนเพื่อเป็นทุนในการดำเนินธุรกิจ การเติบโต และการพัฒนาเว็บเทรด
ก.ล.ต. อ้างถึงเอกสารรายงาน FTT และข้อมูลที่โพสต์บนเว็บไซต์ของ FTX ซึ่งอธิบายเนื้อหาว่าเป็น “โทเคนที่ขับเคลื่อนระบบนิเวศ FTX”
คณะกรรมาธิการกล่าวว่า whitepaper มีการระบุถึงศักยภาพในการทำกำไรของโทเคน ในขณะที่ทำให้นักลงทุนคาดหวังส่วนแบ่งจากการแข็งค่าของมูลค่าของ FTT
“FTT ถูกวางให้เป็นการลงทุนที่จะเพิ่มมูลค่าเมื่อมันเติบโตและขยายตัวในรูปแบบอื่นๆ โดย FTX ได้ออกแบบแผนการจูงใจอย่างรอบคอบเพื่อเพิ่มอุปสงค์สำหรับ FTT และเพื่อลดอุปทานหมุนเวียน”
การจัดการตลาด
ก.ล.ต. ยังกล่าวหาว่า FTX สัญญาว่าจะให้ผลตอบแทนเป็นแรงจูงใจให้นักลงทุนซื้อโทเคนมากขึ้น นอกจากนี้ ลูกค้าที่ถือครองสินทรัพย์เป็นเวลานานจะได้รับค่าธรรมเนียมฟิวเจอร์ส FTX ที่ต่ำกว่า และสิ่งนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อเพิ่มความต้องการสำหรับ FTT
“หากความต้องการซื้อขายบนแพลตฟอร์ม FTX เพิ่มขึ้น ความต้องการโทเคน FTT อาจเพิ่มขึ้นด้วย ดังนั้นการเพิ่มขึ้นของราคา FTT จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ถือ FTT อย่างเท่าเทียมกันและเป็นสัดส่วนโดยตรงกับการถือครอง FTT ของพวกเขา”
นอกจากนี้ หน่วยงานเฝ้าระวังหลักทรัพย์ยังกล่าวหา Ellison จาก Alameda และ Sam Bankman-Fried (SBF) ผู้ก่อตั้งและอดีต CEO ของ FTX ว่าควบคุมราคาของ FTT เพื่อรักษามูลค่าให้ลอยตัวและมีภูมิคุ้มกันต่อสภาวะภายนอก
ที่มา : cryptopotato.com
สามารถติดตามข่าวสารได้ที่ช่องทางต่างๆเพียงคลิกที่ Line , Facebook , Twitter และ Telegram