Pavel Durov ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของแอปพลิเคชันส่งข้อความ Telegram คิดว่าความผิดพลาดของ FTX เกิดขึ้นเนื่องจากอุตสาหกรรมบล็อกเชนเพิ่งเบี่ยงเบนไปจากความเป็น Decentralized เขาแย้งว่ามีคนไม่กี่คนใช้อำนาจในทางที่ผิดซึ่งนำไปสู่การล่มสลายอันน่าทึ่ง
ผู้ประกอบการสัญชาติรัสเซียกล่าวว่าเป้าหมายต่อไปของ Telegram คือการสร้าง non-custodial wallet และ Decentralized exchange เพื่อให้เทรดเดอร์ crypto ได้รับการปกป้องสูงสุดเมื่อดำเนินการในภาคส่วนนี้
ปัญหาหลักเกิดจาก ‘การรวมศูนย์ที่มากเกินไป’
Durov เป็นอีกคนหนึ่งที่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการล่มสลายของกระดานเทรดคริปโต FTX โดยกล่าวว่า หน่วยงานนั้นรวมศูนย์เกือบทั้งหมดและอยู่ภายใต้การควบคุมของคนไม่กี่คน เขาเชื่อว่าพวกเขาเหล่านั้น “เริ่มใช้อำนาจในทางที่ผิด” ซึ่งทำให้เกิดความผิดพลาดและความสูญเสียจำนวนมหาศาล
ตามรายงานของ Durov เหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ดังกล่าวจะถูกกำจัดหากโครงการที่ใช้บล็อกเชน “กลับไปสู่รากเหง้าของพวกเขา นั้นคือ การกระจายอำนาจ (Decentralized)”
“ผู้ใช้ cryptocurrency ควรเปลี่ยนไปใช้ธุรกรรมที่ไม่พึ่งพาตัวกลางและกระเป๋าเงินที่โฮสต์ด้วยตนเองซึ่งไม่ต้องพึ่งพาบุคคลที่สามแม้แต่รายเดียว” เขากล่าว
Durov กระตุ้นให้นักพัฒนาสร้าง “แอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ที่รวดเร็วและใช้งานง่ายสำหรับคนทั่วไป” เขากล่าวว่าเขาต้องใช้ทีมเล็กๆ และใช้เวลาเพียง 5 สัปดาห์ในการสร้าง Fragment ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มบล็อกเชนแบบกระจายอำนาจโดยสมบูรณ์บนเครือข่าย Open Network (TON) ซึ่ง Fragment ประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยทำเงินจากผู้ใช้ได้กว่า 50,000 ดอลลาร์ในเวลาน้อยกว่า 30 วัน เขากล่าวเสริม
ผู้ประกอบการชาวรัสเซียยืนยันว่า ขั้นตอนต่อไปของ Telegram คือการแนะนำเครื่องมือแบบกระจายอำนาจที่หลากหลาย เช่น กระเป๋าเงินที่ไม่มีการควบคุมดูแล และการแลกเปลี่ยนแบบกระจายอำนาจสำหรับ “ผู้คนนับล้าน”
“ด้วยวิธีนี้ เราสามารถแก้ไขข้อผิดพลาดที่เกิดจากการรวมศูนย์ที่มากเกินไป ซึ่งทำให้ผู้ใช้ cryptocurrency หลายแสนคนต้องผิดหวัง” เขากล่าว
Open Network (ก่อนหน้านี้เรียกว่า Telegram Open Network) ได้รับการออกแบบโดยพี่น้อง Durov (ผู้สร้างแอปพลิเคชันการส่งข้อความ) แนวคิดของโครงการคือการนำเสนอธุรกรรมบล็อกเชนที่รวดเร็ว ค่าธรรมเนียมน้อยที่สุด และก่อให้เกิดผลกระทบเล็กน้อยต่อสิ่งแวดล้อม
อย่างไรก็ตาม การเปิดตัวในปี 2018 นั้นไม่ได้ราบรื่นขนาดนั้น CEO Durov ต้องรับมือกับนักต้มตุ๋นและบัญชีปลอมจำนวนมากบน Twitter จนกว่าสำนักงาน ก.ล.ต. ของสหรัฐฯ จะอนุมัติการขาย ICO
หน่วยงานเฝ้าระวังจำกัดการแจกจ่ายโทเค็น GRAM (สินทรัพย์ดิจิทัลบนแพลตฟอร์ม TON blockchain) เป็นการชั่วคราวในเดือนตุลาคม 2019 คณะกรรมาธิการโต้แย้งว่าผู้ซื้อเหรียญรายแรกสามารถขายต่อได้และด้วยเหตุนี้จึงถือได้ว่าเป็นการแจกจ่ายหลักทรัพย์ที่ไม่ได้จดทะเบียน
การเผชิญหน้านำไปสู่การดำเนินคดีในชั้นศาลซึ่ง Telegram แพ้และต้องยุติการมีส่วนร่วมจากเครือข่าย TON โดยแอพส่งข้อความยังเริ่มกระบวนการคืนเงินโดยชำระคืนนักลงทุนก่อนกำหนด 770 ล้านดอลลาร์และวางพันธบัตรอายุ 5 ปีมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์เพื่อชำระหนี้
แพลตฟอร์ม TON มีโทเคนดั้งเดิมที่เรียกว่า Toncoin ซึ่งมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดมากกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ ในขณะที่ราคาปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 1.80 ดอลลาร์ต่อเหรียญ
ที่มา : cryptopotato.com
สามารถติดตามข่าวสารได้ที่ช่องทางต่างๆเพียงคลิกที่ Line , Facebook , Twitter และ Telegram
