การวิเคราะห์ใหม่แสดงให้เห็นว่าประเทศที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการล่มสลายของเว็บเทรด crypto FTX ได้แก่ เกาหลีใต้ สิงคโปร์ และญี่ปุ่น นอกจากนี้ รัสเซีย เยอรมนี ตุรกี ไต้หวัน อินเดีย อียิปต์ และบราซิลยังติด 10 อันดับแรกของประเทศที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการล่มสลายของ FTX อีกด้วย
ประเทศที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากความล้มเหลวของ FTX
เกาหลีใต้ สิงคโปร์ และญี่ปุ่น อยู่ในอันดับต้น ๆ ของประเทศที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการล่มสลายของเว็บเทรด cryptocurrency FTX ตามการวิเคราะห์ของ Coingecko ที่เผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดี โดยศึกษาจากผู้ใช้ที่ไม่ซ้ำกันรายเดือนของ FTX.com และยอดการเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของแต่ละประเทศตั้งแต่เดือนมกราคมถึงตุลาคม
จากการวิเคราะห์ เกาหลีใต้ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการล่มสลายของ FTX เนื่องจากมีผู้ใช้ที่ไม่ซ้ำกันเฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 297,229 รายที่เข้าเยี่ยมชม FTX.com ซึ่งคิดเป็น 6.1% ของการเข้าชมเว็บไซต์ทั่วโลก
ประเทศที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดรองลงมาคือสิงคโปร์ ซึ่งมีผู้ใช้ที่ไม่ซ้ำกันเฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 241,675 ราย ซึ่งคิดเป็น 5% ของการเข้าชมเว็บไซต์ทั่วโลก ซึ่งในช่วงที่ Binance ปิดการดำเนินงานในสิงคโปร์ในเดือนธันวาคมปีที่แล้ว มีรายงานว่าผู้ใช้ Binance หันมาใช้ FTX เป็นจำนวนมาก
ประเทศที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดเป็นอันดับสามคือญี่ปุ่น ซึ่งมีผู้ใช้ที่ไม่ซ้ำกันเฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 223,513 ราย คิดเป็น 4.6% ของการเข้าชมเว็บไซต์ทั่วโลก เมื่อต้นปีนี้ บริษัท Softbank ของญี่ปุ่นได้ลงทุน 100 ล้านดอลลาร์ใน FTX
นอกจาก 3 ประเทศข้างต้นแล้ว รัสเซีย เยอรมนี ตุรกี ไต้หวัน อินเดีย อียิปต์ และบราซิลยังติด 10 อันดับแรกของประเทศที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการล่มสลายของ FTX โดยข้อมูลการวิเคราะห์แสดงให้เห็นว่า มีผู้เข้าชมไซต์ FTX เพียง 92,935 รายเท่านั้นที่มาจากสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตาม ไม่รวมการรับส่งข้อมูลไปยัง FTX US ซึ่งใช้โดเมนแยกต่างหาก
ขณะนี้ FTX อยู่ระหว่างการสอบสวนในประเทศต่างๆ หน่วยงานที่รับเรื่องในสหรัฐได้แก่ กระทรวงยุติธรรม (DOJ) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) และ Commodity Futures Trading Commission (CFTC) กำลังสอบสวนเว็บเทรดกรณีการจัดการเงินของลูกค้าอย่างไม่ถูกต้อง โดยหน่วยข่าวกรองทางการเงินของตุรกีเริ่มตรวจสอบ FTX เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ด้านคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์บาฮามาสกำลังดำเนินการที่จะยึดสินทรัพย์ดิจิทัลของ FTX
ที่มา : news.bitcoin.com
สามารถติดตามข่าวสารได้ที่ช่องทางต่างๆเพียงคลิกที่ Line , Facebook , Twitter และ Telegram
