การยอมรับคริปโตในทางหลักชาริอะฮ์ขึ้นอยู่กับการรับรู้และต้องใช้เวลา ตามที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินอิสลามในมาเลเซียให้ข้อมูล
ความกังขาต่อคริปโตอันเนื่องจากความไม่แน่นอน
Suhaida Mahpot ซีอีโอ Amanie Advisors บริษัทที่ปรึกษารายสำคัญ ความกังขาต่อคริปโตในประเทศอิสลามนั้นไม่ได้ปฏิเสธอย่างสมบูรณ์ ทว่าผลสืบเนื่องมาจากความไม่แน่นอน Salaam Gateway สำนักข่าวมุ่งเน้นเศรษฐกิจอิสลาม รายงานเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม
Mahpot ที่ปรึกษาที่มีประสบการณ์ทำงานกับ Amanie เชี่ยวชาญด้านการจัดการการเงินที่สอดคล้องกับอิสลามนาน 11 ปี ได้เปรียบเทียบสถานการณ์ที่มีอยู่เกี่ยวกับเงินคริปโตต่อประเภทการลงทุนที่ไม่สอดคล้องกันระหว่าง Amanah Saham Bumiputera (ASB) และ Amanah Saham Nasional (ASN)
เปรียบเทียบคริปโตกับการลงทุนที่ได้รับอนุญาต
Mahpot บอกว่าความเข้าใจและการยอมรับ ASB เปลี่ยนแปลงไปมากตลอดหลายปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่เริ่มต้นขึ้นปี 1990 และมีการตัดสินใจพิจารณาว่าเป็น “ฮารุส” หมายความว่ามันไม่ได้ถูกห้ามหรือสนับสนุนโดยคำสอนทางศาสนา
ก่อนหน้านี้ ASB นั้นมีสองท่าทีที่สำคัญ Mahpot กล่าว พวกหนึ่งถือว่า ASB ฮารุส อีกพวกหนึ่งปฏิเสธบอกว่าฮารอม
ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการเงินเน้นว่า การลงทุนทั้ง ASB และ ASN ในที่สุดก็ได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการชี้ขาดเซอลาโงร์ (Selangor Fatwa Committee) ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลเดียวกันกับการห้ามดอกเบี้ย ที่ยืนหยัดว่าการทำธุรกรรมดอกเบี้ยนั้นถือว่ากินดอกเบี้ยนั่นเอง
“สิ่งเดียวกันนี้เกิดขึ้นกับสกุลเงินดิจิทัล” Mahpot บอกว่าสถาบันทางการเงินและนักการศาสนาต้องศึกษาเกี่ยวกับสกุลเงินคริปโตและประโยชน์ของมันให้มากกว่านี้ เธอกล่าวว่า
เราจำเป็นต้องให้ความรู้แก่สถาบันการเงินต่าง ๆ ให้มากกว่านี้ เกี่ยวกับการยอมรับสกุลเงินดิจิทัล ความโปร่งใสจาการใช้สกุลเงินคริปโตที่ให้ประโยชน์ต่อสังคมในวงกว้าง หวังว่าความคิดเหล่านี้จะเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา
เมื่อต้นปี 2019 Cointelegraph เคยรายงาน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และซาอุดิอารเบียร่วมมือกันสร้างสกุลเงินดิจิทัลขึ้น
ในปี 2018 โครงการ ADAB Solutions project ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้ประกาศว่าจะเปิดตัวตลาดซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Crypto Exchange) แห่งแรกของอิสลามขึ้น โดยอ้างว่าจะดำเนินงาน “ตามหลักการของกฎหมายชาริอะฮ์ทางศาสนาอิสลาม”
ที่มา : cointelegraph.com