Sumitomo Mitsui Banking Corporation (SMBC) สถาบันการธนาคารและบริการทางการเงินข้ามชาติที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของญี่ปุ่น ได้ประกาศว่า กำลังวางแผนที่จะขยายไปสู่ธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งรวมถึง non-fungible token (NFT) และแพลตฟอร์ม Web3 โดยร่วมมือกับ Hashport บริษัทผู้ให้บริการ Tokenization และ Listing Services ในญี่ปุ่น
ธนาคารที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของญี่ปุ่นเตรียมให้บริการ Token และ NFT Services
ธนาคารแบบดั้งเดิมหลายแห่งทั่วโลกกำลังพิจารณาที่จะเข้าสู่ธุรกิจคริปโตและสินทรัพย์ดิจิทัล โดย Sumitomo Mitsui Banking Corporation (SMBC) ซึ่งเป็นสถาบันที่มีสาขามากกว่า 463 สาขาทั่วโลก ได้ประกาศว่าจะเข้าสู่ธุรกิจสินทรัพย์สกุลเงินดิจิทัล โดยใช้บริการ NFT และ Web3 เป็นลำดับความสำคัญหลักในสาขานี้
เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ SMBC ได้ร่วมมือกับ Hashport ซึ่งเป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญในการนำเสนอโซลูชั่นการแปลงโทเคนและบริการจัดทำลิสต์ ตามข่าวประชาสัมพันธ์ระบุว่าความรู้ทางธุรกิจของ SMBC และโซลูชันทางเทคนิค Web3 ของ Hashport จะช่วยให้กิจการร่วมค้าสามารถสร้างแพลตฟอร์มบริการได้ มันระบุว่า :
“เรามุ่งมั่นที่จะสร้างระบบนิเวศที่เกี่ยวข้องกับผู้เล่นจำนวนมากในโดเมน NFT เราเชื่อว่าความพยายามเหล่านี้จะช่วยส่งเสริม Web3 ในญี่ปุ่น”
Business Token Lab
ผลลัพธ์ของการทำงานร่วมกันคือการจัดตั้ง Business Token Lab ซึ่งจะ “มีส่วนร่วมในการสำรวจ วิจัย และทดลองสาธิตที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมธุรกิจโทเคน“
สิ่งนี้ยังสอดคล้องกับเป้าหมายระยะยาวของบริษัท ซึ่งก็คือการส่งเสริมธุรกิจโทเคนในญี่ปุ่น และจัดตั้งแผนกเพื่อให้บริการการดูแลระบบดิจิทัล อย่างไรก็ตาม บริการที่ SMBC มุ่งหวังที่จะนำเสนอนั้นนอกเหนือไปจากนี้ คือการร่วมทุนเพื่อให้ “การสนับสนุนด้านการค้าและบริการให้คำปรึกษาแก่ลูกค้าที่กำลังพิจารณาธุรกิจโทเคน รวมถึงการออก NFTs“
SMBC Group กำลังพิจารณาที่จะออกธุรกิจโทเคนของตัวเองในอนาคต โดยใช้ประโยชน์จากสถานะระหว่างประเทศและฐานผู้ใช้ที่มีขนาดใหญ่ บริษัทญี่ปุ่นอื่นๆ ได้เปิดตัวโครงการในภาคส่วนนี้เช่นกัน รวมถึง Rakuten บริษัทค้าปลีกออนไลน์ที่เปิดตัวตลาด NFT ของตนเองในเดือนกุมภาพันธ์ ในเดือนพฤษภาคม บริษัทในเครือของบริษัทยังได้ประกาศว่าจะร่วมมือกับ Bitbank ซึ่งเป็นบริษัทแลกเปลี่ยนคริปโตของญี่ปุ่น เพื่อให้บริการดูแลคริปโตเคอเรนซีสำหรับสถาบันต่างๆ
ที่มา : news.bitcoin.com
สามารถติดตามข่าวสารได้ที่ช่องทางต่างๆเพียงคลิกที่ Line , Facebook , Twitter และ Telegram