นับตั้งแต่วันที่ 27 ราคา bitcoin เคลื่อนไหวขึ้นลงจากราคาราว ๆ $14,000 ปรับตัวลงมากว่า 22 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ถือเป็นการเคลื่อนไหวครั้งสำคัญที่มูลค่าคริปโตชั้นนำลดลง
อย่างไรก็ตามการปรับตัวลดลงระดับหนึ่ง แต่ราคายังคงเติบโต 210 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกันปีต่อปี ถือว่าเป็นสินทรัพย์เติบโตอย่างมีประสิทธิภาพที่สุดในตลาดโลก
เมื่อเทียบกับสินทรัพย์ดิจิทัลตัวอื่น ๆ แล้ว ดูเหมือนว่าจะมีความผันผวนมาก เติบโตมากกว่า 200 เปอร์เซ็นต์ตั้งแต่เดือนมกราคม ยกเว้น Litecoin และ Binance Coin
สถานการณ์ราคา Bitcoin ต่ำกว่า $10,000
เมื่อพิจารณาราคา bitcoin พุ่งขึ้นจาก $4,000 ไปถึงเกือบ $14,000 ภายในสี่เดือน การปรับตัวลงมาจากราคาในปัจจุบันก็มีโอกาสเป็นไปได้สูงเช่นกัน
นักวิเคราะห์ทางเทคนิคอย่าง Josh Rager กล่าวว่าหากราคา bitcoin ล้มเหลว ไม่สามารถฟื้นตัวกลับสู่ราคาหมื่นกลาง ๆ ประมาณที่ $10,577 อาจมีการปรับตัวลงถึง $9,000 ก็เป็นไปได้ เขากล่าวว่า
ราคาคงพักตัวและปิดเหนือราคา $10,900 หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น และหากราคาปิดต่ำกว่า $10,577 ก็ส่งสัญญาณการเปลี่ยนเทรนด์ระยะสั้น และอาจต่ำกว่า $9,000…ตามความเห็นของฉันยังอยู่ในตลาดกระทิง (เพียงแค่ปรับตัวลงเท่านั้น)
Rager เน้นย้ำว่าในระยะปานกลางและระยะยาว เทรนด์ของ Bitcoin ยังเป็นขาขึ้นอยู่ (bullish) มีปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญหลายเรื่องที่ควรพิจารณาซึ่งอาจเป็นตัวเร่งในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ตัวอย่างเช่น การมาถึงของตลาดซื้อขายอย่าง Bakkt และเหตุการณ์ halving ของ Bitcoin เป็นต้น
ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา Brian Kelly ซีอีโอ BKCM กล่าวในรายการ Fast Money ทาง CNBC ว่า นักขุดคริปโตจำนวนมากมีเงินเพียงพอสำหรับการดำเนินงานตลอด 12 เดือนข้างหน้า และจะถือ BTC เอาไว้ และต่างคาดการณ์เอาไว้ว่าราคาคริปโตชั้นนำราคาจะพุ่งสูงขึ้นหลังเหตุการณ์ halving นั่นเอง
Kelly กล่าวว่า
ฉันได้พูดคุยกับนักขุดจำนวนมากทั่วโลก พวกเขาส่วนมากกล่าวพวกเขาจะขาย bitcoin เฉพาะเท่าที่เพียงพอใช้ไปจนถึงปีหน้าหรือนานกว่านั้น และเรากำลังสะสม bitcoin มากขึ้นในช่วงนี้และเราจะไม่ขายมัน และอุปทานของ bitcoin จะลดลงครึ่งหนึ่ง จากหลักเศรษฐศาสตร์ง่าย ๆ เมื่ออุปสงค์สูงมากกว่าอุปทานมาก ๆ ราคาก็จะดีดตัวสูงขึ้น
ดังนั้น อินดิเคเตอร์ทางเทคนิคหลายตัวยังคงชี้ว่าเทรนด์ระยะสั้นจะเกิดการกลับตัว สินทรัพย์อาจปรับตัวลดลงไปอีก 24 ถึง 48 ชั่วโมง แต่ปัจจัยพื้นฐานยังคงเป็นตัวแปรสำคัญ
สินทรัพย์ดิจิทัลสกุลอื่น ๆ ต่างปรับตัวลงตาม
เนื่องจากราคา bitcoin ปรับตัวลดลงประมาณ 7 เปอร์เซ็นต์ในรอบวัน ทว่าสินทรัพย์คริปโตตัวอื่น ๆ อย่าง Ethereum, XRP, Litecoin, Bitcoin Cash และ Binance Coin ต่างก็ร่วงตกอยู่ในช่วง 7 ถึง 14 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ
จากข้อมูลของ ATHCoinIndex นั้น bitcoin ยังคงปรับตัวลดลงราว 43 เปอร์เซ็นต์จากราคาสูงสุดในประวัติการณ์ที่ราว ๆ $20,000 ทว่าสินทรัพย์ดิจิทัลทางเลือกอื่น ๆ ลดลงมากอยู่ในช่วง 80 ถึง 90 เปอร์เซ็นต์จากจุดสูงสุด
Ethereum, XRP และ Bitcoin Cash ปรับตัวลดลงไม่น้อยกว่า 83 เปอร์เซ็นต์จากราคาสูงสุดในประวัติการณ์ ถือว่าประสิทธิภาพต่ำกว่า bitcoin ในเจ็ดเดือนที่ผ่านมา
โดยสรุปแล้ว BTC ยังคงเติบโตอย่างโดดเด่นในตลาดคริปโตทั่วโลก ราคาเติบโตขึ้น 65 เปอร์เซ็นต์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปลายปี 2017
ที่มา : ccn.com