กรอบกฎหมาย crypto ของปารากวัยก้าวหน้าไปอีกขั้น
ผู้ร่างกฎหมายชาวปารากวัยได้พิจารณาเป็นเวลาหนึ่งปีเกี่ยวกับกรอบการกำกับดูแล Crypto ที่ครอบคลุมซึ่งรวมถึงข้อควรพิจารณาสำหรับธุรกิจและผู้ค้า
วุฒิสภาปารากวัยผ่านร่างกฎหมายเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2022 โดยกำหนดกรอบภาษีและระเบียบข้อบังคับสำหรับธุรกิจที่ดำเนินงานในสกุลเงินดิจิทัลและภาคเหมืองขุด Crypto
ร่างกฎหมายดังกล่าวซึ่งเปิดตัวเมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้วโดยวุฒิสมาชิก Fernando Silva Facetti และผ่านรัฐสภาในเดือนพฤษภาคมก่อนที่จะถึงวุฒิสภา เรียกร้องให้มีการจัดตั้งกระทรวงอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ (MIC) เพื่อดูแลผู้ให้บริการในอุตสาหกรรมคริปโต ร่างกฎหมายนี้อยู่ห่างจากการให้สัตยาบันตามกฎหมายโดยประธานาธิบดีมาริโอ อับโด เบนิเตซเพียงหนึ่งก้าว
ประกาศจากสภาคองเกรสในเดือนพฤษภาคมระบุว่าร่างกฎหมายนี้เกี่ยวข้องกับการขุด crypto, การค้า, การไกล่เกลี่ย, การแลกเปลี่ยน, การโอน, การดูแลและการบริหารสินทรัพย์หรือเครื่องมือ crypto ที่อนุญาตให้ควบคุมสินทรัพย์ crypto
สำนักข่าวท้องถิ่น ABC รายงานเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคมว่าบริษัทที่ดำเนินการในอุตสาหกรรม crypto จะได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกับบริษัทที่เกี่ยวข้องกับหลักทรัพย์เพื่อวัตถุประสงค์ทางภาษี ด้วยเหตุนี้ ปลัดรัฐจึงได้รับการยกเว้นภาษีจากการชำระภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) แต่จะรวมอยู่ในระบบภาษีเงินได้
มีรายงานว่าร่างกฎหมายพิจารณาว่า ผู้ขุดคริปโต ควรมีปฏิสัมพันธ์กับซัพพลายเออร์พลังงานในท้องถิ่นอย่างไร การดำเนินการขุดในอนาคตจะต้องรายงานตารางการใช้พลังงานต่อสำนักงานการไฟฟ้าแห่งชาติ (ANDE) ซึ่งเป็นระบอบการปกครองไฟฟ้าของประเทศปารากวัย หากพบว่าคนงานเหมืองใช้ไฟฟ้ามากกว่าที่วางแผนไว้ ANDE อาจตัดการจ่ายไฟฟ้า
ในขณะที่ร่างกฎหมายกำหนดว่าค่าใช้จ่ายด้านพลังงานสำหรับคนงานเหมืองจะได้รับเงินอุดหนุน พวกเขาจะจ่ายในอัตรา 15% สูงกว่าอุตสาหกรรมอื่น ๆ
ตามรายงาน วุฒิสมาชิก Fernando Silva Facetti กล่าวว่าการปรับเปลี่ยนร่างกฎหมายในปีที่แล้ว “ปรับปรุงโครงการเดิม”
ผู้คัดค้านการเรียกเก็บเงิน เช่น Senator Enrique Bacchetta รายงานว่าในขณะที่การควบคุมอุตสาหกรรม crypto จะนำไปสู่ผลกำไรที่มากขึ้น เขาตั้งคำถามว่าจะสร้างงานให้เพื่อนพลเมืองของเขาจริงหรือไม่ วุฒิสมาชิก Esperanza Martinez สนับสนุนข้อกังวลของวุฒิสมาชิก Baccetta โดยอ้างว่าอัตราการใช้พลังงานจากคนงานเหมืองมีมากกว่าจำนวนงานที่พวกเขาจะสร้าง
ที่มา : cointelegraph
สามารถติดตามข่าวสารได้ที่ช่องทางต่างๆเพียงคลิกที่ Line , Facebook , Twitter และ Telegram