Bitcoin (BTC) มีประสิทธิภาพเหนือกว่าสินทรัพย์เพื่อการรักษาระดับความมั่งคั่ง (Wealth Preservation) แบบดั้งเดิมในช่วงสงครามทางการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ ผู้จัดการสินทรัพย์ดิจิทัลอเมริกันของ Grayscale ยืนยันในผลงานวิจัยเผยแพร่เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน
รายงานอัพเดทล่าสุด “Hedging Global Liquidity Risk with Bitcoin” รายงานเริ่มจากต้นปี 2016 Grayscale บอกว่า bitcoin เติบโต 47% ในช่วงตั้งแต่ 5-31 พฤษภาคม สินทรัยพ์ที่มีประสิทธิภาพรองลงมาก็คือ เงินเยน เติบโต 2.1%
นอกจากนี้ สินทรัพย์จำนวนมากร่วงอย่างต่อเนื่องเนื่องจากข้อพิพาทยังคงดำเนินอยู่ Nasdaq Composite index ลดลง 8.7% ประสิทธิภาพแย่สุดในตลาดหุ้นโลก
Grayscale ยังตั้งข้อสังเกตอีกว่าการลดลงของมูลค่าเงินหยวนเป็นปัจจัยที่สำคัญ ส่งผลให้ bitcoin เกิดภาวะตลาดกระทิงในเดือนพฤษภาคม เนื่องจากความไม่แน่นอนของนักลงทุนในท้องถิ่น
“ขณะที่ภาวะถดถอยเพิ่งอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่ Bitcoin กลับพุ่งขึ้น ก่อนที่ความเสี่ยงสะท้อนให้เห็นชัดเจนมากขึ้นในสินทรัพย์อื่น” Matthew Beck ผู้บริหารบริษัทเพื่อการลงทุนและวิจัยให้ความเห็น
ความจริงนี้ถูกค้นพบเกิดขึ้นจากเทรนด์ที่ได้เห็นการเติบโตของ bitcoin ในช่วงไม่มั่นคงทางการเมืองในปีนี้ นอกจากนี้ Cointelegraph เคยรายงานว่า เหตุการณ์ Brexit ดูเหมือนว่าจะส่งผลกระทบคล้าย ๆ กันต่อราคาสกุลเงินคริปโต
ในขณะที่การยอมรับ bitcoin ยังคงใหม่มากสำหรับใช้เป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยง อย่างไรก็ตาม Grayscale ยังยืนความเชื่อนี้อาจเป็นไปได้ในอนาคต
“แม้ว่ามันยังเร็วเกินไปสำหรับวงจรชีวิตของ Bitcoin ในฐานะสินทรัพย์เพื่อการลงทุน เรามีหลักฐานรองรับชัดเจนว่าสามารถทำหน้าที่เป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงในวิกฤติสภาพคล่องทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นของค่าเงินลดลง” Beck สรุป
ในขณะเดียวกัน ทฤษฎีเกี่ยวกับการพุ่งขึ้นของราคา bitcoin ในช่วงเดือนพฤษภาคม ยังเอนเอียงไปทางที่ไม่ใช่การเมือง ตัวอย่างเช่น นักลงทุนอาจกลัวตกกระแสราคา (FOMO) หลังจากราคาพุ่งขึ้นในเดือนเมษายน ก็เป็นไปได้เช่นกัน
ที่มา : cointelegraph.com
