มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดอันดับสามในเม็กซิโกนามว่า Ricardo Salinas Pliego ได้แบ่งปันประสบการณ์การใช้ชีวิตผ่านภาวะเงินเฟ้อมาอย่างโชกโชน และล่าสุดเขาออกมาเตือนว่าสหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ อีกหลายประเทศกำลังจะต้องเผชิญหน้ากับปัญหาที่เคยเกิดขึ้นกับที่ประเทศเม็กซิโกที่เคยผ่านมาในช่วงทศวรรษ 1980
Ricardo Salinas Pliego เตือนเรื่องเงินเฟ้อ
Ricardo Salinas Pliego ได้ออกมาพูดคุยเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อรุนแรง bitcoin และสกุลเงิน fiat นอกจากนี้ยังได้ให้คำแนะนำบางอย่างในการประชุม Bitcoin 2022 ในเมืองไมอามี รัฐฟลอริดา อีกด้วย
Ricardo Salinas Pliego เป็นผู้ก่อตั้งและประธาน Grupo Salinas ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทที่มีความสนใจในด้านโทรคมนาคม สื่อ บริการทางการเงิน และร้านค้าปลีก มูลค่าสุทธิของเขาอยู่ที่ประมาณ 13 พันล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน
ในการประชุม Bitcoin 2022 ในเมืองไมอามี รัฐฟลอริดาเขาได้เตือนว่า:
“ข่าวร้ายก็คือสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร และกลุ่มประเทศยูโรบล๊อก — ประเทศเหล่านี้กำลังดำเนินไปในทางเดียวกันกับประเทศเม็กซิโกของฉันใช้ในยุค 80 ทุกประการ ”
นอกจากนี้เขายังได้แสดงแผนภูมิ หนี้ของรัฐบาลกลางทั้งหมดของรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่า 36.2 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2574 เลยทีเดียว
แผนภูมิถัดไปที่เขาแสดงคือสินทรัพย์ของสหรัฐฯ ทั้งหมดซึ่งเติบโตจาก 0.8 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2548 เป็น 8.9 ล้านล้านดอลลาร์ในปีนี้ “จากแผนภูมินี้แสดงให้เห็นว่า Federal Reserve มีทรัพย์สินมากมาย “มันต้องดีมากแน่ๆ ใช่ไหม? และพวกเขากำลังซื้อพันธบัตร นั่นจะต้องดีมาก” เขาแบบแซะเบาๆ ก่อนที่จะอธิบายว่าความหมายที่แท้จริงมัน
“สิ่งที่พวกเขากำลังทำคือการทำเงินปลอมจากอากาศ และให้กู้ยืมเพื่อสร้างกำลังซื้อที่เหมาะสมกับปัจจุบัน ขณะนี้เรามีเงินออมปลอมจำนวน 9 ล้านล้านดอลลาร์จากธนาคารกลางสหรัฐ ปัญหาคือเพราะเงินดอลลาร์เป็นสกุลเงินสำรองของโลก ไม่สามารถทำอะไรกับมันได้ เว้นแต่คุณจะใช้ bitcoin”
คำเตือนสุดท้ายของเขาก่อนปิดงาน:
“สิ่งนี้ยังไม่ได้เกิดขึ้นกับสหรัฐอเมริกา ไม่ได้หมายความว่าจะเกิดขึ้นกับประเทศที่มีอารยะธรรมไม่ได้ เยอรมนีเป็นประเทศที่มีอารยธรรมสูงส่ง จนกระทั่งได้รับผลกระทบจากอัตราเงินเฟ้อในไวมาร์”
แต่อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่าเยอรมนีไม่เหมือนกับซิมบับเว โดยสามารถผ่านวิกฤตดียวกันนี้ได้ มหาเศรษฐีให้ความเห็นว่า: “ซื้อ bitcoin ซะ นี่คือวิธีที่จะปกป้องคุณได้”
ที่มา news.bitcoin.com
สามารถติดตามข่าวสารได้ที่ช่องทางต่างๆเพียงคลิกที่ Line , Facebook , Twitter และ Telegram