ศูนย์นวัตกรรม (Innovation Hub) ของ Bank for International Settlements (BIS) ร่วมมือกับธนาคารกลางในออสเตรเลีย มาเลเซีย สิงคโปร์ และแอฟริกาใต้ เพื่อสร้างต้นแบบสองชุดสำหรับแพลตฟอร์มการชำระเงินระหว่างประเทศโดยใช้สกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง (CBDC)
“ระยะเริ่มต้นของโครงการนี้ประสบความสำเร็จในการพัฒนาต้นแบบการทำงานและแสดงให้เห็นถึงแนวทางแก้ไขที่เป็นไปได้ บรรลุเป้าหมายในการพิสูจน์แนวคิด multi-CBDCs ให้ได้ได้จริงในทางเทคนิค” บทสรุปผู้บริหารของโครงการระบุ
ความร่วมมือนี้เรียกว่า Project Dunbar มุ่งเน้นไปที่วิธีการที่แพลตฟอร์มใช้งานร่วมกัน ซึ่งรวม CBDC หลายรายการเข้าด้วยกัน สามารถช่วยในเรื่องการชำระเงินระหว่างประเทศ “ถูกกว่า เร็วกว่า และปลอดภัยยิ่งขึ้น” ตามที่อธิบายไว้ในรายงานฉบับนั้น
“นำโดย Singapore Centre ศูนย์นวัตกรรมแห่งสิงคโปร์ โดย Project Dunbar พิสูจน์ว่าสถาบันทางการเงินสามารถใช้ CBDC ที่ออกโดยธนาคารกลางที่เข้าร่วมเพื่อทำธุรกรรมโดยตรงระหว่างกันบนแพลตฟอร์มที่ใช้งานร่วมกัน” BIS กล่าวในประกาศเมื่อวันที่ 22 มีนาคม “สิ่งนี้มีศักยภาพที่จะลดการพึ่งพาคนกลาง ต้นทุน และเวลาที่ใช้ในการประมวลผลธุรกรรมข้ามพรมแดนเช่นเดียวกัน”
รายงานได้เน้นย้ำถึงความท้าทายหลักสามประการในการชำระธุรกรรมผ่านแพลตฟอร์มทั่วไป ประการแรกเกี่ยวข้องกับคำถามเกี่ยวกับการเข้าถึง CBDC บนแพลตฟอร์ม เช่น ธนาคารควรสามารถเข้าถึง CBDC จากประเทศที่พวกเขาไม่มีสถานะในท้องถิ่นได้หรือไม่ ความท้าทายอีกประการหนึ่งคือ การทำให้การชำระเงินระหว่างประเทศงา่ยขึ้น โดยที่ยังคงปฎิบัติการตามกฎระเบียบของแต่ละประเทศ และสุดท้ายความท้าทายที่สามกำลังเกิดขึ้นกับโครงการกำกับดูแลที่อนุญาตให้ประเทศต่าง ๆ แบ่งปันโครงสร้างพื้นฐานด้านการชำระเงิน โดยคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ เช่น ความมั่นคงของชาติ
“การอนุญาตให้หน่วยงานถือและทำธุรกรรมใน CBDC โดยตรงจากเขตอำนาจศาลที่แตกต่างกัน สามารถลดความจำเป็นในการเป็นคนกลางในการชำระเงินข้ามพรมแดน แต่จะต้องดำเนินการในลักษณะที่รักษาความปลอดภัยและความยืดหยุ่นของการชำระเงินเหล่านี้” Michele Bullock ผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลียกล่าวในแถลงการณ์ “ในขณะที่มีทีมงานต้องทำมากขึ้นในการคิดเกี่ยวกับความเป็นไปได้และการออกแบบของแพลตฟอร์ม multi-CBDC การค้นพบจาก Project Dunbar เป็นแพลตฟอร์มที่ดีสำหรับการทำงานในอนาคตในพื้นที่นี้”
ที่มา : theblockcrypto.com
