Tether บริษัทผู้ดำเนินการ Stablecoin ตอบโต้ข้อกล่าวที่ว่านำเงินสำรองไปโปะให้กับ Bitfinex ตลาดซื้อขายคริปโทที่สูญเสียเงินไปเป็นจำนวนเงิน $850 ล้านดอลลาร์ โดยออกประกาศเมื่อวันที่ 26 เมษายน เคลมว่าการยื่นศาลของอัยการสูงสุดรัฐนิวยอร์กนั้น “เต็มไปด้วยข้อสันนิษฐานเท็จ”
Letitia James ฝ่ายอัยการของรัฐ ได้กล่าวหาว่า Tether และ Bitfinex รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังละเมิดกฎหมายนิวยอร์กผ่านกิจกรรมที่อาจมีการฉ้อโกงนักลงทุนคริปโทในรัฐ ตามเอกสารที่ยื่นต่อศาล ตลาดใช้เงินนับล้านดอลลาร์จากเงินสำรองของ Tether เพื่อปกปิดความสูญเสียจากนักลงทุนและซ่อนความไร้สามารถในการดำเนินการถอนเงินแก่ลูกค้า
นอกจากคำประกาศของ Tether แล้ว ยังมีประกาศของ Bitfinex ออกมาเช่นกัน กล่าวว่า
“เอกสารที่ยื่นต่อศาลของอัยการสูงสุดของนิวยอร์กถูกเขียนขึ้นโดยไม่สุจริตใจและเต็มไปข้อสันนิษฐานเท็จ รวมถึงเรื่องที่อ้างว่า ‘สูญเสียเงิน’ $850 ต่อ Crypto Capital ในทางตรงกันข้าม เราขอแจ้งว่าเงินของ Crypto Capital ไม่ได้สูญเสียแต่อย่างใด แท้จริงแล้วถูกเก็บไว้และปลอดภัยดี เรายังอยู่และกำลังทำงานอย่างแข็งขันตามสิทธิ์ของเรา รวมถึงแก้ไขปัญหาและนำเงินทุนนั้นออกมา”
แถลงการณ์ร่วมทั้งสอง เคลมว่าสำนักอัยการสูงสุด “ดูเหมือนว่ากำลังพยายามบ่อนลายความพยายาม” เพื่อให้ปล่อยเงินทุนออกมา และเตือนว่าสิ่งนี้จะสร้างความเสียหายต่อลูกค้าในที่สุด
ทั้งสองบริษัทยืนยันว่าพวกเขาได้ให้ความร่วมมือต่ออัยการอย่างเต็มที่ และเรียกร้องให้สำนักงานอัยการสูงสุด “มุ่งเน้นความพยายามในการช่วยเหลือและสนับสนุนความพยายามในการแก้ปัญหาของเรา”
และให้คำมั่นคัดค้านต่อการฟ้องร้องของศาล แล้วกล่าวเพิ่มเติมว่า
“ทั้ง Bitfinex และ Tether มีความแข็งแกร่งทางการเงินเต็มรูปแบบ และทั้ง Bitfinex และ Tether ต่างมุ่งมั่นฟันฝ่าต่อสำนักงานอัยการสูงสุดเกี่ยวกับบริษัทที่ดีและสนับสนุนการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด”
ในเดือนมกราคม 2018 มีนักวิจารณ์ต่อ Tether กล่าวหาว่าคริปโทเคอร์เรนซีที่เคลมว่าเงินสำรองทุก $1 จะหนุนแต่ละเหรียญ stablecoin ที่ออกมา แต่จริง ๆ แล้วใช้เงินสำรองแค่บางส่วนและมีการออกโทเคนมากกว่าเงินที่ตรึงไว้ ในเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว Tether กล่าวว่ามีการตรวจสอบอย่างเป็นทางการพบว่าเงินดิจิทัลนั้นมีเงินหลักประกันที่เหมาะสม
ทั้ง Bitfinex และ Tether ซึ่งมีซีอีโอร่วมกัน เคยได้รับหมายศาลจากหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐอเมริกาเนื่องจากยังไม่เปิดเผยเหตุผลในเดือนธันวาคม 2017
ที่มา : cointelegraph.com
