ที่ปรึกษาประธานาธิบดีรัสเซียเสนอให้นำสกุลเงินดิจิทัล (digital currency) มาใช้งานในคาบสมุทรไครเมีย (Crimea) เพื่อดึงดูดนักลงทุนและหลีกเลี่ยงการคว่ำบาตร สำนักข่าวท้องถิ่น TASS รายงาน เมื่อวันที่ 19 เมษายน
Sergey Glazyev ให้คำปรึกษาต่อประธานาธิบดีรัสเซีย Vladimir Putin เกี่ยวกับการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจในภูมิภาค เรียกร้องให้รัฐบาลนำ “เทคโนโลยีการเงินดิจิทัล” มาใช้งาน เพื่อลด “อุปสรรคปัญหากำแพงพรมแดน” โดยกล่าวอย่างเป็นทางในการประชุม YALTA International Economic Forum (YIEF)
สื่อรายงานว่า Glazyev แนะนำให้นำเงินดิจิทัลมาใช้งานจะช่วย “ลดอุปสรรคปัญหาด้านพรมแดน” และจะช่วยดึงดูดนักลงทุนต่างชาติที่ “กลัวมาตรการคว่ำบาตร” ซึ่งเป็น “การดำเนินการผ่านธนาคารทั่วไป”
มีรายงานอย่างเป็นทางการว่า เงินดิจิทัลอย่างเช่น เหรียญ stablecoin ที่ตรึงกับทองคำหรือสินทรัพย์ทางกายภาพอื่น ๆ สามารถ “ก้าวข้ามเรื่องพรมแดนและไม่สามารถขัดขวางจาการคว่ำบาตรได้”
Glazyev แนะนำให้มีการสร้าง “โทเคนดิจิทัลที่มีเสถียรภาพ” โดยตรึงกับมูลค่าต้นทุนต่อตารางเมตรเพื่อใช้ระดมทุนการก่อสร้างรีสอร์ทเพื่อสุขภาพขนาดใหญ่
ตามที่ TASS รายงาน สาธารณรัฐไครเมียจะกลายเป็นดินแดนแรกของรัสเซียในเรื่องการลงทุนในผลิตภัณฑ์มวลรวมภูมิภาค (GRP)
ในคำแถลงล่าสุดของเขา Glazyev ได้เน้นย้ำถึงทัศนคติเชิงบวกต่อเทคโนโลยีบล็อกเชน ในปี 2018 เขากล่าวถึงลักษณะที่ไม่ถูกจำกัดของเงินดิจิทัล โดยเน้นว่าไม่ได้อยู่ภายใต้อิทธิพลของการคว่ำบาตรใด ๆ และสามารถลดความเสี่ยงทางการเมืองได้
เมื่อเร็ว ๆ นี้ธนาคารกลางของรัสเซียประเมินข้อดีและข้อเสียของสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) โดยสรุปข้อเสียที่สำคัญเรื่องหนึ่งนั่นก็คือ ผู้ใช้งาน CBDC ไม่มีการเปิดเผยตัวตน
ในขณะเดียวกัน รัสเซียยังไม่ได้บังคับใช้กฎระเบียบใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมคริปโท เนื่องจากสภาดูมารัฐสภาของรัสเซียชะลอการพิจารณาร่างกฎหมายว่าด้วย “สินทรัพย์ทางการเงินดิจิทัล” ก่อนหน้านี้ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียได้กำหนดเส้นตายให้รัฐบาลออกกฎข้อบังคับใช้สำหรับอุตสาหกรรมคริปโทภายในวันที่ 1 1 กรกฎาคม 2019
ที่มา : cointelegraph.com
