Aave จะช่วยให้ผู้สร้างคอนเทนต์สามารถ “เป็นเจ้าของรากฐานดิจิทัลของพวกเขา” และเรียกร้องให้มีประสบการณ์ทางสังคมที่อิงตามสัญญาอัจฉริยะ (smart contracts)
Aave (AAVE) แพลตฟอร์มให้ยืมเงินแบบไร้ตัวกลาง เปิดตัวระบบนิเวศของโปรโตคอล Lens Protocol บนบล็อกเชน Polygon (MATIC) เพื่อท้าทายแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียแบบรวมศูนย์อย่าง Twitter หรือ Facebook เริ่มต้นด้วยจดหมายเปิดผนึกสนับสนุนแนวคิดที่ผู้สร้างคอนเทนต์ควรเป็นเจ้าของและควบคุมข้อมูลประจำตัวดิจิทัลของพวกเขา นำไปสู่การพัฒนาเครือข่ายโซเชียลมีเดียฐาน Web3 ที่ขับเคลื่อนโดย NFT
Twitter Spaces บริษัทที่จัดขึ้นในสัปดาห์นี้ คุณ Stani Kulechov ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Aave กล่าวถึงเบื้องหลัง Lens Protocol
“เราต้องการสร้างโปรโตคอลโซเชียลมีเดีย หรือโดยพื้นฐานแล้วคือ social graph และสร้างโปรไฟล์เหล่านั้นในเครือข่าย ตามความสัมพันธ์แบบออนไลน์ และสร้างวิธีที่ไม่ได้รับรับอนุญาตในการเผยแพร่เนื้อหาระหว่างผู้สร้างและผู้เยี่ยมชม”
คุณ Kulechov และทีมนักพัฒนาของเขาได้เจาะลึกถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียในปัจจุบัน ตามที่นักพัฒนาคนหนึ่งชื่อ @Zer0dots บน Twitter บอกว่า “เราเป็นคน เราไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ เราไม่ใช่ตัวเลขหรือจุดข้อมูล” เขาหมายถึงเนื้อหาบนฟีดของผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพบน Instagram หรือ Tweet ที่ Meta หรือ Twitter สามารถขายเป็นข้อมูลให้กับนักการตลาดได้ เขาอธิบายว่า Lens Protocol ต้องการเปลี่ยนจาก “ผู้ใช้งานเป็นผลิตภัณฑ์” เพื่อให้ครีเอเตอร์มีความเป็นเจ้าของมากพอที่จะเลือกว่าจะเผยแพร่คอนเทนต์ของตนอย่างไร
โดยทั่วไป โปรโตคอลจะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างโปรไฟล์ ซึ่งเป็น NFT ประกอบได้อย่างสมบูรณ์ NFT แบบไดนามิกเหล่านี้ได้แก่ ประวัติโพสต์ รีโพสต์ ความคิดเห็น และเนื้อหาอื่น ๆ ที่สร้างขึ้น รวมถึงเพลง ความคิดเห็น ศิลปะ การถ่ายรูป และวิดีโอ ความแตกต่างที่สำคัญคือโปรไฟล์จะเชื่อมโยงกับ wallet address และเจ้าของสามารถเลือกวิธีสร้างรายได้จากคอนเทนต์ของตนได้ ผู้ติดตามยังสามารถรวบรวมคอนเทนต์ของคนอื่นและรับ NFT ที่สามารถซื้อขายได้
“และคุณสามารถเลือกได้ว่าใครจะได้รับมัน” @Zer0dots กล่าว “คุณสามารถเลือกได้ว่าจะใช้ตรรกะใด มีค่าธรรมเนียมหรือไม่? มีพันธะ subscription หรือไม่? หรือเป็นเพียง addresses เฉพาะที่คุณต้องการ? มีตัวเลือกต่าง ๆ มากมาย”
สำหรับตอนนี้ Lens Protocol พร้อมให้ทดสอบบน Polygon Mumbai Testnet โดย Polygon เป็นเชนทางเลือกเนื่องจากความเร็วในการทำธุรกรรมและต้นทุนคุ้มค่า และเนื่องจากแอพพลิเคชั่นสามารถนำไปใช้กับทุกเครือข่ายได้เนื่องจากรองรับ Ethereum Virtual Machine
ที่มา : cointelegraph.com
