ชาว Reddit คนหนึ่งได้สร้างบอท (bot) แบบช้อนซื้ออัตโนมติ (automated dip-buying) ขึ้นมา เหนือกว่าการซื้อ Bitcoin แบบถัวเฉลี่ยต้นทุน (dollar-cost averaging, DCA) ประมาณ 10%
ขณะที่ตลาดฟื้นตัวกลับมาในเดือนกุมภาพันธ์ มีเทรดเดอร์ผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่งชื่อ u/Samjhill บน Reddit ได้สร้างเครื่องมือซื้อขาย Bitcoin (BTC) ที่มีประสิทธิภาพเหนือกว่ากลยุทธ์การซื้อขายแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน (DCA)
DCA นั้นเป็นกลยุทธ์ที่นักลงทุนซื้อปริมาณน้อย ๆ เป็นประจำ โดยไม่คำนึงถึงความผันผวนของราคา มันทำงานสวนทางกับเทรดเดอร์ที่กระตือรือร้นเข้าซื้อราคาที่ต่ำที่สุดเท่าที่ทำได้
ชื่อ “Buy the Dip Bot” หรือบอทช้อนซื้อ มุ่งเน้นให้ได้ “ราคาสินทรัพย์ที่ดีที่สุดโดยใช้กลยุทธ์ limit strategy” โดยได้แรงบันดาลใจจากชาว Reddit อีกคนหนึ่งที่แนะนำกลยุทธ์ limit-buy-order strategy เพื่อให้ได้ราคาที่ดีที่สุด u/Samjhill ได้นำแนวคิดนี้ไปต่อยอดอีกขั้นหนึ่งโดยเขียนโค้ดเป็นบอท dip-buying bot ขึ้นมา
บอทวางคำสั่งออเดอร์ limit orders ไว้หลายช่วงที่ราคาต่ำกว่าปัจจุบัน และหากคำสั่งถูกดำเนินการหรือยกเลิก คำสั่งใหม่จะเริ่มขึ้นอีกครั้ง โดยใช้เทคโนโลยีจาก Amazon Web Services, Python, Lambda, DynamoDB และ React.JS ร่วมกัน โดยโฮสบน GitHub ต้นทุนในการรันต่ำมาก “เพียงแค่ประมาณ $5 ต่อเดือน” เท่านั้น
แม้ว่าบอทจะดำเนินการตั้งแต่เดือนธันวาคม แต่ก็ประสบความสำเร็จขั้นแรกในวันจันทร์ ความสามารถในการทำกำไรได้ดีกว่าเมื่อเทียบกับ DCA “ข้อได้เปรียบราคาต่อเหรียญ (ถูกกว่า) อยู่ที่ประมาณ 5%–10% ในตอนนี้ ซึ่งอาจคิดว่าจะได้รับเหรียญมากขึ้นคุ้มกับเงินของคุณ” Sam เผยกับทาง Cointelegraph
บอทรันใช้ไลบรารีทดสอบย้อนหลังเพื่อหาจุดเข้าที่ดีที่สุดสำหรับ limit buys กระบวนการที่ซับซ้อนนี้ ได้รับผลตอบแทนจบลงด้วย “กลยุทธ์ที่ชนะ”
เมื่อ Cointelegraph ถามว่าแนะนำบอทนี้แทน DCA ทั่วไปหรือไม่ คุณ Sam ตอบว่าขึ้นอยู่กับว่าคุณมีประสบการณ์ต่อ BTC มากน้อยแค่ไหน
สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มต้น DCA ทั่วไปนั้นสมเหตุสมผลมากกว่า เนื่องจากเป้าหมายของคุณคือข้อนเหรียญให้ได้มากที่สุด สำหรับคนที่มีประสบการณ์นั้นพวกเขาอาจมีจำนวนที่เหมาะสมอยู่แล้วและต้องการลดการเพิ่มต้นทุนพื้นฐานให้น้อยที่สุด และอาจได้ประโยชน์มากขึ้นจากสิ่งนี้
Sam เรียนรู้เกี่ยวกับ Bitcoin ครั้งแรกในปี 2013 เสริมว่าเขากำลังพัฒนาทั้งกลยุทธ์ DCA และ limit strategy “เพื่อให้ได้ even curve ที่เติบโตของเหรียญยิ่งขึ้น”
ขณะเดียว Sam ได้สร้างระบบที่ทำงานร่วมกับเหรียญอื่น ๆ ได้ง่าย ฟีเจอร์สำหรับ Ether (ETH) บนหน้าเพจ GitHub คาดว่าจะเปิดตัวออกมาเช่นกัน
ที่มา : cointelegraph.com