รัฐบาลเผด็จการทหารของเมียนมาร์ได้ร่างกฎหมายความมั่นคงทางไซเบอร์ที่จะห้ามการใช้เครือข่ายส่วนตัวเสมือนหรือ VPN ภายใต้บทลงโทษจำคุกหรือปรับ ทำให้องค์กรสิทธิดิจิทัลกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของการปิดประเทศ
วันที่ 13 มกราคมได้มีการร่างกฎหมาย ลงนามโดยโซ เต็น ปลัดกระทรวงคมนาคมและคมนาคมของกองทัพบก และอยู่ระหว่างการร้องขอความคิดเห็นจนถึงวันที่ 28 มกราคม หากฝ่าฝืนมีการนำ VPN ไปใช้จะถูกตัดสินจำคุก 1 ถึง 3 ปี และปรับมากถึงห้าล้านจ๊าดเมียนมาร์ (2,800 ดอลลาร์)
ร่างกฎหมายดังกล่าวยังห้ามการใช้สกุลเงินดิจิทัล โดยมีโทษจำคุกเป็นเวลา 6 เดือนถึง 1 ปี และค่าปรับเดียวกันกับที่ใช้แบน VPN (2,800 ดอลลาร์)
นอกจากนี้ ผู้ให้บริการจำเป็นต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ เช่น ชื่อ ที่อยู่ และประวัติการเข้าถึง แก่เจ้าหน้าที่หากมีการร้องขอ ข้อกำหนดที่คล้ายกันนี้ทำให้บริษัทโทรคมนาคมต้องออกจากภูมิภาคไปในอดีต Telenor ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือของนอร์เวย์ ได้ย้ายออกในเดือนกันยายน พ.ศ. 2564 เมื่อรัฐบาลเผด็จการทหารต้องการสกัดกั้นเครือข่าย
ขณะที่ประเทศเผชิญกับรัฐประหารในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 กองทัพพม่าได้สั่งห้ามไม่ให้ใช้ Facebook, Instagram และ Twitter ทำให้ผู้ใช้ในประเทศต้องหันมาใช้ VPN เพื่อเข้าถึงบริการสื่อสารออนไลน์ที่ตนต้องการ
“สิ่งเหล่านี้มีผลกระทบอย่างมากต่อคำพูดทางการเมืองและสิทธิมนุษยชน แต่ท้ายที่สุดแล้ว นี่จะเป็นเพียงแค่การเปลี่ยนความรู้สึกสาธารณะให้ต่อต้านการปกครองของทหารมากยิ่งขึ้น”
ที่มา coinfomania.com
สามารถติดตามข่าวสารได้ที่ช่องทางต่างๆเพียงคลิกที่ Line , Facebook , Twitter และ Telegram