การสำรวจประเมินว่านักโฆษณาเชื่อว่า “blockchain”
เป็นคำศัพท์ที่นิยมใช้กันมากที่สุดในปี 2018 นี่เป็นเรื่องไม่น่าแปลกใจเลยที่หลายบริษัทจากวงการที่ไม่เกี่ยวข้องกับคริปโตเคอเรนซี่เลยอ้างถึงการใช้งานหรือทดสอบเทคโนโลยีบล็อกเชนเมื่อปีที่แล้วซึ่งมีน้อยมาก
คำที่นิยมใช้กันมากที่สุดในปี 2018
การศึกษาวิจัยเมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยเป็นการสำรวจของนักวิจัย Research Intelligencer ของ Media Post ซึ่งทำการสัมภาษณ์นักการตลาด 120 คนและผู้บริหารเอเจนซี่โฆษณา 181 รายในเดือนมกราคม 2019 นักวิจัยทำการวิจัยเพื่อหาคำหรือคำศัพท์ที่นิยมใช้กันมากที่สุดในอุตสาหกรรมโฆษณาเมื่อปีที่แล้ว ผู้เข้าร่วม 26 เปอร์เซ็นต์เลือกคำว่า “blockchain” เป็นคำที่พูดถึงกันมากที่สุดในปี 2018 ทำให้เป็นประเด็นที่ดีที่สุดในการสำรวจ
“Blockchain มีการพูดถึงกันมากเกินจริงในอุตสาหกรรมของปี 2018 จึงอาจเป็นหนึ่งในเหตุผลที่มันถูกตั้งชื่อเป็นคำที่ยอดฮิตที่สุดของปีจากนักบริหารงานโฆษณาเพื่อสร้างการรับรู้” ยืนยันโดย Joe Mandese บรรณาธิการของ Media Post
ส่วนแบ่งอันดับที่สองได้แก่คำว่า “AI”
และ “programmatic” แต่ละคำอยู่ที่ 19
เปอร์เซ็นต์ ส่วนคำย่อของคำ crypto-asset และการลงทุนที่เกี่ยวข้องคือ
“crypto” อยู่อันดับที่สามอยู่ที่ 12 เปอร์เซ็นต์
นอกจากนี้จากการสำรวจพบว่านักโฆษณาจำนวน 31 เปอร์เซ็นต์ มีแนวโน้มที่จะคิดว่า
“บล็อคเชน” มีแนวโน้มที่จะคิดว่า “blockchain” เป็นศัพท์ที่ใช้กันมากที่สุดมากกว่าเอเจนซี่โฆษณาเพียง 22 เปอร์เซ็นต์
การตลาดโฆษณาเกินจริงขององค์กร
ผลการสำรวจดูเหมือนจะยืนยันว่านักโฆษณาทราบว่ามีหลายบริษัท ที่ใช้คำว่า “blockchain” ในทางที่ผิดเพียงเพื่อรับสื่อโฆษณาฟรี เมื่อเดือนที่แล้วมีรายงานว่าบริษัทที่ปรึกษาด้านการจัดการ McKinsey ระบุว่ามีกรณีใช้งานคำว่า blockchain มากกว่า 100 กรณี เป็นนำร่องหลักและพิสูจน์แนวคิดที่ว่ายังอยู่ในโหมด ‘การบุกเบิก’ หรือปิดตัวลง
นักวิจัย Research Intelligencer อธิบายว่าได้รวบรวมการสำรวจหลังจากการเปิดตัวสมาคมผู้โฆษณาแห่งชาติเกี่ยวกับคำศัพท์ต่าง ๆ ของปี “เป้าหมายด้านแบรนด์” และเพื่อประเมินความคิดเห็นในอุตสาหกรรมโฆษณาที่เหลือ
นอกจากคำยอดฮิตที่พูดเกินจริงมากที่สุดแล้วก็พบว่าคำที่สำคัญที่สุดของปีคือ คำว่า “โปร่งใส (transparency)” กับ “ผู้มีอิทธิพล (influencer)” รั้งท้ายอันดับที่สอง นอกจากนี้ AI คาดว่าจะเป็นคำที่สำคัญที่สุดในอุตสาหกรรมโฆษณาของปี 2019 ตามที่ผู้บริหารทำการสำรวจ
ที่มา : news.bitcoin.com, mediapost.com
