เอสซีบี เท็นเอกซ์ (SCB 10X) บริษัทโฮลดิ้งคอมพานีในกลุ่มธนาคารไทยพาณิชย์ เผยกำลังเตรียมพร้อมด้าน DeFi อย่างแข็งขัน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการเงินแบบดั้งเดิมสูงมาก
จาการพูดคุยผ่านทางอีเมล์เมื่อวันเสาร์ คุณ Mukaya Tai Panich หัวหน้าฝ่ายการลงทุนและเจ้าหน้าที่การลงทุนของ SCB บอกว่า DeFi กำลังครองทุกสิ่งที่การเงินแบบดั้งเดิมมีอยู่ในปัจจุบัน คุณ Panich กล่าวว่า
เมื่อเราเฝ้าดู DeFi เราคิดว่าเป็นไปได้สักวันหนึ่งที่ธนาคารและสถาบันทางการเงินต่าง ๆ จะถูกกำจัดโดยสมบูรณ์
ซึ่งรวมถึงเรืองสินเชื่อ/การให้กู้ยืม การจัดการสินทรัพย์ การประกันภัย การซื้อขาย อนุพันธ์ และนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ คุณ Panich กล่าว
ในทางเศรษฐศาสตร์ การกำจัด (disintermediation) หมายถึง การกำจัดตัวกลางออกจากห่วงโซ่อุปทาน หรือที่เรียกว่า การตัดพ่อค้าคนกลางออกไป ในสถานการณ์ที่กำหนด
DeFi ได้รับการขนานนามว่ามีศักยภาพในการแย่งชิงตัวกลางทางการเงิน โดยใช้สัญญาอัจฉริยะ (smart contracts) ดำเนินการโค้ดที่ควบคุมกฎระหว่างคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายเมื่อได้ปฏิบัติตามมาตรการเฉพาะ อย่างเช่น เวลาที่กำหนด เป็นต้น
ทั้งนี้ ธนาคารกำลังเตรียมตัว คุณ Panich โดยลงทุนใน DeFi เพื่อเรียนรู้ “อย่างแข็งขัน” ธนาคารยังมองหาพันธมิตรที่เหมาะสมในวงการเพื่อผนวก DeFi เข้ากับการเงินแบบดั้งเดิมอีกด้วย
เราต้องการเป็นพันธมิตรกับโปรโตคอล DeFi เพื่อทำงานร่วมกันแก้ปัญหาต่าง ๆ ในการเงินแบบดั้งเดิมเพื่อลดต้นทุนการดำเนินงาน ชำระเงินทางบัญชีแบบเรียลไทม์ ขจัดตัวกลาง และมีความโปร่งใสสูง
ด้วยเหตุนี้เอง หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายลงทุนบอกว่า เธอเชื่อว่าในอนาคตบริษัททางการเงินแบบดั้งเดิมจะจับมือกับบริษัทด้าน DeFi หันไปหา “ฐานลูกค้าขนาดใหญ่” ของบริษัทดั้งเดิม
ในสถานการณ์นั้น บริษัทการเงินแบบเก่าจะลดกิจกรรมพบปะลูกค้าลง อาทิ การหาลูกค้าและการจัดหาที่ “เรียบง่าย เข้าใจง่ายขึ้น และผสมผสานเข้าด้วยกัน” DeFi จะเสริมกำลังให้กับหลังบ้านเพื่อลดเวลาการทำธุรกรรมและเวลาในการชำระเงิน ลดต้นทุน และเพิ่มความโปร่งใสมากขึ้น
เพื่อให้สิ่งนี้เกิดขึ้นจริง ฉันคิดว่าบริษัทการเงินแบบดั้งเดิมอย่างเรา ควรศึกษา ลงทุน ปรับใช้ DeFi อย่างจริงจัง และในเวลาเดียวกันบริษัท DeFi ควรทำงานร่วมกับบริษัททางการเงินแบบดั้งเดิมเพื่ออาศัยจุดแข็งของพวกเขาด้วย
การพัฒนาต่อไปในอนาคต
เมื่อถามถึงเทรนด์ของ SCB ในอนาคต คุณ Panich บอกกับทาง CoinDesk ว่า กำลังมองหาแนวทางพัฒนาในโครงสร้างพื้นฐานและการทำงานข้ามเชนระหว่างโปรโตคอลที่มีอยู่อย่างต่อเนื่อง
“ปัจจุบัน บล็อกเชนต่าง ๆ ต่างกำลังแก้ปัญหาเฉพาะภายในระบบนิเวศของตนเอง” คุณ Panich กล่าว
ยังมีความไร้ประสิทธิภาพอีกมาก เนื่องจากสินทรัพย์ต่าง ๆ ส่วนใหญ่ถูกใช้ภายในระบบนิเวศเอง และไม่สามารถโอนย้ายไปใช้งานในบล็อกเชนอื่น ๆ ได้อย่างง่ายดาย
DeFi มักประสบปัญหาในเรื่องโปรโตคอลแตกต่างกันเมื่อต้องทำงานร่วมกัน เนื่องจากภาษาและกฎฉันทามติใช้งานแตกต่างกัน การแก้ปัญหาเหล่านี้จะช่วยให้การใช้สินทรัพย์และข้อมูลในบล็อกเชนต่าง ๆ มีประสิทธิภาพมากขึ้น คุณ Panich กล่าว
เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา บริษัทเปิดตัวกองทุน $50 ล้านเหรียญ เพื่อลงทุนในบล็อกเชน สินทรัยพ์ดิจิทัล และสตาร์ทอัพ DeFi โดยมุ่งเน้นบริษัทที่เติบโตระดับโลก ซึ่วคิดว่าจะช่วยกำหนดรูปแบบบริการทางการเงินในอนาคต
“การลงทุนใน picks and shovels เป็นความคิดที่ดีเสมอ” คุณ Panich กล่าว
แอพพลิเคชั่น DeFi มีนวัตกรรมเกิดขึ้นรวดเร็วมากในปีที่ผ่านมา และตอนนี้โครงสร้างพื้นฐานจำเป็นต้องอัพเกรดให้ทันนวัตกรรมเหล่านี้ทั้งหมด
ที่มา : coindesk.com
——————————————————–
สนับสนุนโดยกลุ่ม Coin Thai Talk : https://www.fb.com/groups/CoinThaiTalk/ กลุ่มใหม่ของคนรักคริปโต