ภัยคุกคามจากทางการจีนดูเหมือนว่าส่งผลให้ความต้องการสินทรัพย์คริปโตลดลงเพียงเล็กน้อย
ขณะที่ทางการปักกิ่งพยายามควบคุมและปราบปรามคริปโตที่บูมมาก นักลงทุนหลบหลีกหันไปใช้บริการซื้อขายแบบ OTC (over-the-counter) แทน
เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม Bloomberg รายงานว่า ตั้งแต่จีนประกาศปราบปรามครั้งล่าสุด มีการใช้งานแพลตฟอร์ม OTC เพิ่มขึ้น โดยจีนกวดขันไม่ให้สถาบันการเงินและบริษัทด้านเพย์เมนต์ให้บริการที่เกี่ยวกับคริปโตเคอร์เรนซีเด็ดขาด
ขณะเดียวกันตัวเลขปริมาณซื้อประเมินได้ยาก เนื่องจากการทำธุรกรรม OTC ของจีนเป็นรูปแบบเพียร์ทูเพียร์ และผ่านแพลตฟอร์มการชำระเงินของบุคคลที่สาม โดยแลกเปลี่ยนกันผ่านหยวนจีนและ USDT เหรียญ stablecoin ยอดนิยม ซึ่ง USDT เป็นตัวชี้วัดสำคัญของความเชื่อมั่นต่อตลาดคริปโตในประเทศ ความต้องการ USDT เพิ่มขึ้นในช่วงตลาดตกต่ำ
Bloomberg รายงานว่า USDT/CNY ลดลงมากถึง 4.4% หลังจากพรรคคอมมิวนิสต์จีนปราบปรามเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา แต่ก็ฟื้นตัวกลับมาครึ่งหนึ่ง แสดงให้เห็นว่าแรงเทขายสูงสุดผ่านผ่านไปแล้วก่อนตลาดเริ่มฟื้นตัวกลับมา
หนึ่งในความกังวลหลักผลักดันให้จีนปราบปรามคริปโต ก็คือ เงินไหลออกจากระบบเศรษบกิจ (capital outflow) ถูกจับตามองว่าเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดความเคลื่อนไหวปราบปรามล่าสุด Bloomberg คาดการณ์ว่าการซื้อขายแบบ OTC อาจไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงเท่ากับการซื้อขายผ่านตลาด Exchange ทั่วไป และหน่วยงานกำกับดูแลอาจไม่ถนัดนักในการจัดการกับแวดวงนี้
“เนื่องจากเงินหยวน (ผ่านระบบ OTC) เกิดขึ้นในระบบการเงินทั้งภายในและภายนอกประเทศ ความเสี่ยงของเงินไหลออกจำนวนมากจึงอยู่ในระดับต่ำ” รายงานระบุ
การปรับตัวของชาวจีนสู่ตลาด OTC สะท้อนให้เห็นถึงสถานการณ์ในช่วงปลายปี 2017 เมื่อทางการปราบปรามตลาดซื้อขายคริปโตครั้งแรก เทรดเดอร์ชาวจีนยังคงเชื่อว่าส่วนแบ่งหลักของการซื้อขายคริปโตทั่วโลกทุกวันนี้ แม้จะมีการปราบปรามอย่างหนัก นักวิเคราะห์ประเมินว่าจีนเป็นเจ้าของ Bitcoin 7% ของโลก และคิดเป็นราว 80% ของการซื้อขายก่อนตลาดถูกปราบปรามหนักในปี 2017
ล่าสุด กระแสทางการจีนเข้มงวดต่อการขุดคริปโตในจีน บริษัทหลายแห่งในจีนอย่างเช่น Huobi และ OKEx ตัดสินใจหยุดดำเนินการขุดและหยุดให้บริการด้านขุดคริปโตแก่ลูกค้าชาวจีน
ที่มา : cointelegraph.com
——————————————————–
สนับสนุนโดยกลุ่ม Coin Thai Talk : https://www.fb.com/groups/CoinThaiTalk/ กลุ่มใหม่ของคนรักคริปโต