โดยสรุป
- BlockFi จะเปิดตัวบัตรเครดิตวิซ่า (Visa credit) ในสหรัฐฯ เริ่มในปีหน้า
- บัตรเสนอเงินคืนเป็น Bitcoin จำนวน 1.5% ทุกครั้งที่ทำธุรกรรม
BlockFi ผู้ให้บริการทางการเงินคริปโต กำลังจะเปิดตัวบัตรเครดิตวิซ่า (Visa credit) เริ่มต้นใช้งานได้ในปีหน้า
บัตรอยู่ภายใต้การพัฒนาอย่างน้อยหนึ่งปีที่ผ่านมา และการเปิดตัวบัตรดังกล่าวหมายว่าลูกค้า BlockFi จะสามารถใช้จ่ายเงินสดและได้รับรางวัลคืนเป็น Bitcoin (BTC) นั่นเอง
“ถือเป็นบัตรเครดิตแรกในระบบนิเวศคริปโต และครั้งแรกที่โลโก้ Bitcoin ปรากฏเด่นชัดอยู่บนบัตรจริง” คุณ Zac Prince ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง BlockFi บอกกับทาง The Block ว่า
เราคาดหวังว่าบัตรนี้จะเป็นเครื่องมือทางการเงินส่วนบุคคลสำหรับลูกค้าของเราได้รับเงินคืนเป็น Bitcoin ทุก ๆ ครั้งที่ซื้อสินค้า
BlockFi เสนอเงินคืน 1.5% เป็น Bitcoin ทุกครั้งเมื่อทำธุรกรรมผ่านบัตร และยังให้โบนัส $250 เป็น Bitcoin กรณีใช้จ่ายครบ $3,000 ผ่านบัตรภายในสามเดือนแรก บัตรคิดค่าธรรมเนียม $200 ต่อปี
รางวัลจะเก็บรางวัลสะสมฝากเอาไว้ในบัญชี BlockFi โดยอัตโนมัติ ลูกค้าสามารถนำไปใช้ได้แล้วแต่วัตถุประสงค์ต่าง ๆ ได้แก่ การให้กู้ยืม การซื้อขาย หลักประกันกู้ยืม หรือถอนเงินออกจากไปยังกระเป๋าเงินภายนอกได้
ตอนนี้ BlockFi เปิดรายการรอสำหรับลูกค้าที่เติมเงินในบัญชีแล้ว และจะเปิดให้บริการใช้งานในปีหน้า หลังจากนั้น บริษัทจะส่งบัตร “ในฤดูใบไม้ผลิปีหน้า” บัตรออกโดย Evolve Bank & Trust และสนับสนุนโดย Deserve
บัตรจะใช้งานได้ทั้ง “50 รัฐในสหรัฐฯ” คุณ Prince บอกกับทาง The Block “เรามีแผนเปิดตัวบัตรนี้ในประเทศอื่น ๆ หรือบัตรทำนองนี้ในอนาคต” อีกด้วย
เนื่องจากบัตรเสนอรางวัลเงินคืนเป็น Bitcoin ในตอนแรก คุณ Prince บอกว่า จะรองรับคริปโตเคอร์เรนซีสกุลอื่น ๆ อีกในอนาคต
ปีหน้า Coinbase จะเปิดบัตรวีซ่า (Visa card) มอบรางวัลใช้จ่ายคืนเป็น Bitcoin แต่ทำไมไม่ใช้บัตรเดบิต (Debit card) เมื่อสอบถาม BlockFi ว่าทำไม่ใช้บัตรเครดิตแทน คุณ Prince บอกว่า “บัตรเครดิตจะให้อัตรารางวัลสูงกว่าแก่ลูกค้า และมาพร้อมกับสิทธิ์ประโยชน์อื่น ๆ ได้แก่ การคุ้มครองการซื้อที่ดีกว่า อัตรารางวัลดีกว่า และโอกาสในการสร้างเครดิตได้มากขึ้น”
ด้านผลกระทบทางภาษีของรางวัล Bitcoin จากบัตรเครดิต BlockFi นั้น คุณ Prince บอกว่า
มูลค่ารางวัลเงินคืนถือเป็นส่วนลดของผู้ขายและไม่มีผลต่อภาษีเงินได้ แต่การแปลงมูลค่าเงินเป็น Bitcoin อยู่บนพื้นฐานของต้นทุนของ Bitcoin ซึ่งอยู่ภายใต้กฎดั้งเดิมเกี่ยวกับภาษีการถือครอง Bitcoin
ที่มา : theblockcrypto.com
——————————————————–
สนับสนุนโดยกลุ่ม Coin Thai Talk : https://www.fb.com/groups/CoinThaiTalk/ กลุ่มใหม่ของคนรักคริปโต
