เงินหยวนดิจิทัล (Digital Yuan) สกุลเงินดิจิทัลแห่งชาติของจีน จะมีผู้ใช้งานใช้จ่าย 15% ของการชำระเงินเพื่อการบริโภคทั้งหมดภายใน 10 ปี ช่วยให้ธนาคารพาณิชย์ได้ประโยชน์จากบริษัทฟินเทคมากขึ้น จากรายงานที่ Goldman Sachs แบ่งปันกับทาง CoinDesk
การชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ด้วยสกุลเงินดิจิทัล หรือ DC/EP (Digital Currency Electronic Payment) อาจเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากขึ้น เป็นช่องทางให้บริการการชำระเงินดิจิทัลจากบริษัทฟินเทคทั้งหลายภายใต้สภาพแวดล้อมไร้เงินสด รายงานจำนวน 81 หน้าเผยรายละเอียดเอาไว้ โดยอ้างถึงการไม่เปิดเผยตัวตน การแยกบัญชีออกจากธนาคารกับกระเป๋าเงินหยวนดิจิทัล (wallet) การชำระเงินแบบออฟไลน์ และการเชื่อมต่อทำงานร่วมกันได้กับระบบการชำระเงินที่หลากหลายนั้น มีส่วนทำให้เงินหยวนดิจิทัลประสบความสำเร็จในที่สุด
“ภายใน 10 ปี เราคาดว่า DC/EP จะเข้าถึงผู้ใช้งาน 1 พันล้านราย คิดเป็น 1.6 ล้านล้านหยวนจีน ($229 พันล้านเหรียญ หรือ 19 ล้านล้านหวน ($2.7 ล้านล้านดอลลาร์) ต่อปี (Total Payment Value, TPV) และคิดเป็น 15% ของการชำระเงินเพื่อการบริโภคทั้งหมด” รายงานระบุเอาไว้
Goldman Sachs บอกว่าการชำระเงินเพื่อการบริโภค หมายถึงธุรกรรมที่ผู้ใช้งานใช้ซื้อผ่านแพลตฟอร์มการชำระเงินดิจิทัล โดยธนาคารและผู้ให้บริการฟินเทคต่าง ๆ จะแข่งขันกันอย่างร้อนแรงที่สุด
“การบริโภคเป็นแหล่งรายได้หลักของผู้ให้บริการชำระเงินโดยบุคคลที่สาม (3PP) เนื่องจากอัตราซื้อขายสูงว่าการโอนและการเงิน ดังนั้นการชำระเงินเพื่อการบริโภคจึงเป็น ‘การชำระเงินเพื่อการค้า’ โดยสถาบันทางการเงิน” รายงานกล่าว
ยกระดับการแข่งขัน
รายงานดังกล่าวออกมาหลังจาก หน่วยงานกำกับดูแลทางเงินของจีนระงับการเสนอขาย IPO ของ Ant Group ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ Alibaba บริษัทไอทียักษ์ใหญ่ของจีน ที่มี Alipay แอพการชำระเงินดิจิทัลผ่านมือถือยอดนิยม ทางการปักกิ่งได้เสนอแนวทางใหม่ต่อต้านการผูกขาดเพื่อควบคุมบริษัทฟินเทคในประเทศ
การยอมรับเงินหยวนดิจิทัล ดูเหมือนว่าธนาคารจะเสียท่าให้กับบริษัทฟินเทคและสูญเสียส่วนแบ่งตลาดในระยะยาวหาก DC/EP เติบโตกลายเป็นที่นิยม รายงานระบุเอาไว้
รายงานยังระบุเอาไว้อีกว่า China Merchant Bank (CMB) และ Ping An Bank (PAB) อาจได้ประโยชน์จากระบบนิเวศการชำระเงินดิจิทัลรูปแบบใหม่ เนื่องจากแพลตฟอร์มการชำระเงินของบุคคลที่สามจะต้องเผชิญกับการแข่งขันสูงในระยะยาว
ผู้ใช้งานแอพธนาคารเพิ่มขึ้น 10% รายได้จะเพิ่ม 2%-5%” รายงานกล่าว “PAB และ CMB เป็นตำแหน่งที่ดีที่สุดที่ผู้ใช้งานแอพกลับมาใช้งาน เนื่องจากเป็นผู้นำสำหรับผู้ค้าปลีก ฐานลูกค้าพรีเมียม ความสามารถด้านฟินเทคที่เหนือกว่า และมีกลยุทธ์มุ่งเน้นการเงินเพื่อรายย่อย
ปัจจุบัน Alipay และ WeChat Pay ของ Tencent ยังคงครองตลาดการชำระเงินดิจิทัลในจีน ทั้งสองบริษัทมีสัดส่วนมากกว่า 90% ของธุรกรรมธนาคารบนมือถือในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา
“ธนาคารพาณิชย์จะเป็นเพียงสถาบันการเงินที่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินการแลกเปลี่ยน DC/EP เนื่องจากเป็นผู้ให้บริการดิจิทัลที่ถูกต้องตามกฎหมาย” ธนาคารตั้งข้อสังเกตว่า
สิ่งนี้จะช่วยยกระดับสนามแข่งขันกับแพลตฟอร์มฟินเทคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ธนาคารต่าง ๆ แข่งขันกับบริษัทฟินเทคในด้านการชำระเงินเพื่อการบริโภคอีกครั้ง
การเติบโตของฟินเทค
อย่างไรก็ตาม บริษัทฟินเทคจะยังคงมุ่งเน้นการให้บริการธนาคารเพื่อรายย่อย โดยมีส่วนแบ่งในตลาดให้บริการทางการเงินเพื่อรายย่อยภายในอีกห้าปีข้างหน้า เนื่องจากเงินหยวนดิจิทัลของธนาคารกลางจะค่อย ๆ มีการยอมรับมากขึ้น
ภายในอีกห้าปีข้างหน้า เราคาดว่าฟินเทคจะเติบโตเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าของธนาคาร ขณะเดียวกันพวกเขาจะครองส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นในระบบนิเวศการเงินเพื่อรายย่อย
นอกจากนี้ รายงานยังตั้งข้อสังเกตว่า DC/EP จะไม่รุกล้ำธนาคารพาณิชย์เนื่องจากสกุลเสมือนจะมาแทนที่เงินสดมากกว่าการออมเงิน ยิ่งไปกว่านั้น กระเป๋าเงินหยวนดิจิทัล (wallet) จะไม่จ่ายดอกเบี้ยให้กับผู้ฝาก และธุรกรรมส่วนใหญ่จะมีขนาดเล็กมาก รายงานกล่าว
รายงานระบุว่า จีนมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตบนมือถือ 900 ล้านรายในปี 2019 คิดเป็น 64% ของประชากร อัตราส่วน M0/M2 ของประเทศมีเพียง 4% ถือเป็นหนึ่งในประเทศเศรษฐกิจหลักที่ใช้เงินสดต่ำมาก และยังคงลดลงต่อเนื่อง การบริการธนาคารของจีนบนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สูงถึงเก้าสิบหกเปอร์เซ็นต์
ธนาคารคาดการณ์ว่าจะมีรายได้ 3 ล้านล้านหยวน ($428.6 พันล้านเหรียญ) จากการเงินรายย่อย ภายในปี 2025 เนื่องจากการเติบโตของการชำระเงินและสินเชื่อเพื่อรายย่อยลดลง แต่การบริหารจัดการความมั่งคั่งและการประกันภัยเติบโตอย่างรวดเร็ว
ดูรายงานฉบับเต็มได้ที่นี่
ที่มา : coindesk.com
——————————————————–
สนับสนุนโดยกลุ่ม Coin Thai Talk : https://www.fb.com/groups/CoinThaiTalk/ กลุ่มใหม่ของคนรักคริปโต
