กลุ่มวัย Millennial และ Zoomer ดูเหมือนว่าเป็นนักลงทุนคริปโตที่มีแผนส่งต่อสินทรัพย์ดิจิทัลหลังจากเสียชีวิตอย่างไม่คาดคิด
ผู้ถือครองคริปโตกลุ่มวัยอายุน้อยกว่า ไม่มีแผนใด ๆ ในการส่งผ่านสินทรัพย์ดิจิทัลของพวกเขาเมื่อพวกเขาตาย
จากการสำรวจผู้เข้าร่วมสำรวจ 1,150 คน ในช่วงเดือนตุลาคม 2019 ถึง มิถุนายน 2020 โดยสถาบันฌาปนกิจ (Cremation Institute) ผู้ถือครองคริปโตส่วนใหญ่กังวลเกี่ยวกับการส่งผ่านสินทรัพย์ของพวกเขาหลังจากพวกเขาตาย แต่ส่วนใหญ่ไม่ได้ทำพินัยกรรมหรือทิ้งคำแนะนำที่เหมาะสมแก่ผู้รับผลประโยชน์เอาไว้ การขาดการเตรียมพร้อมเหล่านี้ สถาบันฯ บอกว่า อันเนื่องจากขาดบริการจัดการมรดกที่มุ่งเน้นสินทรัพย์คริปโตโดยเฉพาะและขาดระเบียบกฎเกณฑ์รองรับจากรัฐ
การศึกษาพบว่า นักลงทุน 89% บอกว่า พวกเขากังวลระดับหนึ่งเกี่ยวกับสินทรัพย์คริปโตของพวกเขา มันอาจโอนไปยังครอบครัวหรือเพื่อนของเหล่าหลังจากพวกเขาเสียชีวิต ไม่มีผู้ตอบแบบสอบคนใดเลยว่าพวกเขา “ไม่กังวลใด ๆ เลย”
ทั้งนี้คนรุ่นใหม่ที่มีอายุอยู่ในช่วง 18-40 ปี มีแนวโน้มไม่มีแผนใด ๆ ต่อสินทรัพย์ดิจิทัลของพวกเขาเมื่อเสียชีวิต มีเพียง 65% ของกลุ่ม Millennial และ Zoomer ที่บอกว่าพวกเขาได้สั่งเสียคำแนะนำบางอย่างเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลของพวกเขาแล้ว คนรุ่นเก่า 86% จากกลุ่ม Generation X และ 94% จาก Baby Boomerรายงานว่า มีแผนส่งต่อการถือครองคริปโตของพวกเขาแล้วเช่นกัน
ผู้ที่รายงานว่ามีแผนรองรับแล้ว ส่วนใหญ่ 65% บอกว่าพวกเขาได้สั่งเสียคำแนะนำเกี่ยวกับสินทรัพย์ของพวกเขาในบริเวณบ้านที่ผู้รับผลประโยชน์สามารถหามันเจอได้ไม่ยาก มีเพียง 2% เท่านั้น ที่ใช้โซลูชั่นความปลอดภัย อย่างเช่น ตู้เก็บนิรภัย และ 32% รายงานว่าใช้ USB stick หรือ คอมพิวเตอร์ในการจัดเก็บคำแนะนำเอาไว้ให้
ผลการศึกษาพบว่า ผู้ถือครองคริปโตน้อยกว่าสี่เท่าที่ตั้งใจมอบมรดก เพียง 7% เมื่อเทียบกับ 32% จากนักลงทุนนอกคริปโต ผลลัพธ์ดังกล่าว สถาบันฯ บอกว่า “มันค่อนข้างน่าตกใจมาก”
การสูญเสียสินทรัพย์ดิจิทัล
คุณ Adam Binstock จากสถาบัน Cremation Institute ศึกษาได้ข้อสรุป “การสูญเสียทรัพย์สินของพวกเขาหลังจบชีวิตน่าตกใจมาก”
Coincover บริษัทประกันภัยคริปโตเคอร์เรนซี ประมาณการว่าเกือบ 4 ล้าน Bitcoin (BTC) หรือมากกว่า $37 พันล้านดอลลาร์ การหมุนเวียนก็จะหายไปหลังจากที่ไม่สามารถเข้าถึงมันได้
หนึ่งในเหตุการณ์ที่โด่งดังมาก สินทรัพย์ดิจิทัลจำนวนมากสูญเสียไปหลังจากคุณ Gerry Cotton ผู้ก่อตั้ง QuadrigaCX เสียชีวิต เมื่อเขาตายในอินเดียในปี 2018 โดยไม่ได้ส่งต่อคีย์มูลค่าโทเคน $145 ล้านดอลลาร์ หลายคนคิดว่าการตายของเขาเป็นเรื่องหลอกลวง อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการหลักทรัพย์ออนแทรีโอ (Ontario Securities Commission) ก็ออกมาและบอกว่าตลาดฯ ของ Cotton จริง ๆ แล้วเป็นโครงการหลอกลวง
อีกกรณีหนึ่งในปี 2017 เกี่ยวกับชายคนหนึ่งซึ่งสะสม Bitcoin บนตลาด Coinbase เอาไว้จำนวนมาก แต่จบชีวิตโดยไม่ได้ทิ้งคำสั่งเสียใด ๆ เกี่ยวกับการเข้าถึงสินทรัพย์แก่ครอบครัวเลย ครอบครัวสามารถแสดงหลักฐานการเสียชีวิตและความสัมพันธ์ของพวกเขาต่อแพลตฟอร์มเพื่อขอเข้าถึงเงินทุน หาก Bitcoin ไม่ได้เก็บเอาไว้ในตลาดซื้อขายคริปโต (Exchange) ในสหรัฐฯ หรือพวกเขาไม่ใช่พลเมืองสหรัฐฯ กระบวนการต่าง ๆ อาจซับซ้อนกว่านี้มาก
บริษัทหลายแห่งได้เปิดตัวบริการแก้ปัญหาเรื่องนี้แล้ว Inheriti บริการมรดกสินทรัพย์คริปโตจากแพลตฟอร์ม Safe Haven ตอนนี้อยู่ในช่วงเบต้าและจะเปิดตัวเร็ว ๆ นี้ สถาบัน Cremation Institute รายงาน ยืนยันว่า คุณ Matthew Burgoyne ทนายความจาก McLeod Law เชื่อว่าจะมีบริการจากบุคคลที่สามโดยอาศัย AI จัดการคีย์ส่วนตัวในกรณีที่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น
สถาบัน Cremation Institute ประกอบไปด้วย ผู้เชี่ยวชาญ ผู้บริจาคสนับสนุน และนักวิจัย “สร้างทรัพยากรหลังการจบชีวิตที่สำคัญแก่บุคคลและสมาชิกครอบครัว”
ที่มา : cointelegraph.com
——————————————————–
สนับสนุนโดยกลุ่ม Coin Thai Talk : https://www.fb.com/groups/CoinThaiTalk/ กลุ่มใหม่ของคนรักคริปโต