ราคา Bitcoin ร่วง 31% หลังจากสหรัฐฯตั้งกำแพงภาษีจีน ครั้งนี้จะแตกต่างกันจากเดิมหรือไม่?
สงครามการค้าสหรัฐฯ – จีน เริ่มขึ้นในเดือนมกราคม 2018 เมื่อมีการตั้งกำแพงภาษีต่อสินค้าจีนในเดือนกรกฎาคมในปีเดียวกัน ราคา Bitcoin (BTC) ร่วง 31% จากราคา $8,487 เหลือ $6,000
ล่าสุด สหรัฐฯ และจีน กำลังเข้าสู่สงครามการค้าครั้งใหม่ เนื่องจากทั้งสองประเทศต่อสู้หาต้นกำเนิดของโคโรนาไวรัส ประธานาธิบดีทรัมป์เตือนว่า ข้อตกลงทางการค้าที่ลงนามแล้ว“จะไม่รู้สึกแบบนั้นอีกแล้วสำหรับฉัน” โดยแสดงท่าทีออกจากข้อตกลงอย่างชัดเจน
ราคาสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำจากมูลค่าราคาตลาด (CoinMarketCap) เผชิญกับความเสี่ยงจากสงครามการค้าเต็มรูปแบบระหว่างสองมหาอำนาจยักษ์ใหญ่ที่จะหวนกลับมาอีกครั้ง
นักลงทุนจีนครองส่วนแบ่งตลาด Bitcoin ค่อนข้างสูง
ข้อมูลรายงานของ Diar เมื่อกลางปี 2019 ที่ผ่านมา ความต้องการ Tether ในจีนสูงถึง $10 พันล้านดอลลาร์ ภายในเดือนมิถุนายน 2019 คิดเป็น 62% ของ Tether ที่หมุนเวียนทั้งหมด ในไตรมาสที่สองของปีที่แล้ว
Diar รายงานว่า
ข้อมูลที่ Diar ได้มาจาก Chainalysis บริษัทวิเคราะห์บล็อกเชน พบว่าความต้องการ Tether ของจีนมีมากกว่า $16 พันล้านดอลลาร์ ผ่านตลาด Exchange ต่าง ๆ ในปี 2018 ปีนี้ จำนวนยังคงโดดเด่นยืนเหนือ $10 ล้านดอลลาร์…นับตั้งแต่ปี 2019 จนถึงปัจจุบัน นักลงทุนจีนเข้าสู่ตลาดมูลค่ากว่า $7 พันล้านดอลลาร์ของมูลค่าธุรกรรมทั้งหมดในปี 2017
นอกเหนือจากผู้ใช้งาน Tether ในจีนค่อนข้างสูงแล้ว มีรายงานว่าตลาด Exchange สองรายได้รับอนุมัติจากทางการจีน โดยให้ความสำคัญต่อนักลงทุนสถาบัน
คุณ Matthew Graham ซีอีโอ Sino Global Capital บอกว่า
ดูเหมือนว่าเรื่องราวของจีนดังขึ้นเรื่อย ๆ 1) Huobi และ OKEx ได้รับอนุมัติ (‘institutionalization’) 2) Binance และตลาด exchange ระดับนานาชาติ ส่วนใหญ่คลี่คลายลง …
แม้จะมีการห้ามซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซีอย่างเข้มงวด นักลงทุนชาวจีนก็ยังครองส่วนแบ่งตลาด Bitcoin ค่อนข้างสูง
หากเงินทุนไหลเข้าจีนน้อยลง เนื่องจากความตึงเครียดจากสหรัฐฯ จะสร้างแรงกดดันสูงต่อสินทรัพย์ อย่างเช่น ตลาดหุ้น และ Bitcoin
ข้อมูลในอดีตแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ความเสี่ยงทางการเมืองในอดีตทำให้มีการถอน Bitcoin มากขึ้น
ยกตัวอย่างเช่น ราคา Bitcoin ร่วงจาก $8,487 เหลือ $6,000 ในเดือนกรกฎาคม 2018 ภายในสองสัปดาห์ หลังจากสหรัฐฯ ขึ้นภาษีสินค้าจีนมูลค่า $34,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ความต้องการของนักลงทุนสถาบันอาจลดลง
ข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ – จีน อาจทำให้ความเชื่อมั่นต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ ลดลง
จีนกำลังดิ้นรนตอบสนองความต้องการซื้อสินค้าในช่วงข้อตกลงเฟสหนึ่ง และคาดว่าจะพลาดข้อตกลงบางอย่าง
การปรับฐานของตลาดหุ้น ได้รับปัจจัยหนุนจากสงครามทางการค้าสหรัฐฯ-จีน ท่ามกลางธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กกำลังเผชิญกับภาวะล้มละลาย สร้างแรงกดดันต่อนักลงทุนสถาบัน ส่งผลให้ความต้องการ Bitcoin ลดลงไปด้วย
ที่มา : cointelegraph.com
——————————————————–
สนับสนุนโดยกลุ่ม Coin Thai Talk : https://www.fb.com/groups/CoinThaiTalk/ กลุ่มใหม่ของคนรักคริปโต