รัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางกลุ่มประเทศ G20 เตรียมประชุมสัปดาห์นี้ และธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ (Bank for International Settlements: BIS) มีข้อมูลสำคัญนำเสนอในที่ประชุม
การเตรียมการประชุมรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางในเดือนนี้นั้น ศูนย์นวัตกรรมแห่งธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ (Bank for International Settlements Innovation Hub, BISIH) ได้ส่งมอบรายงานสองฉบับด้วยกัน ซึ่งเกี่ยวข้องกับคริปโตเคอร์เรนซีและสกุลเงินที่ออกโดยธนาคารกลาง (CBDC) เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม รายงานดังกล่าวได้สรุปผลลัพธ์เกี่ยวกับเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องที่แตกต่างกันมาก
รายงานของ BISIH ที่เกี่ยวกับคริปโตสั้นกว่าสองฉบับ 24 หน้า รายงานให้เห็นภาพรวมเกี่ยวกับระบบนิเวศคริปโตของคริปโตเคอร์เรนซี เหรียญ stablecoin ต่าง ๆ และการเงินไร้ตัวกลาง (DeFi) ตามมาด้วยลิสต์รายการ “ข้อบกพร่องเชิงโครงสร้างและความเสี่ยงต่าง ๆ”
รายงานเกี่ยวกับคริปโตได้พูดถึงปัญหาที่รับรู้กันทั่วไป เช่น การมีส่วนร่วมของการแลกเปลี่ยนคริปโตแบบรวมศูนย์ ความไม่มั่นคงของเหรียญ stablecoin ต่าง ๆ และการไม่สามารถย้อนกลับได้ (purported irreversibility) ของสัญญาอัจฉริยะ
ข้อมูลเชิงลึกอีกเรื่องหนึ่งในรายงาน BISIH คือ ความเสี่ยงจากธรรมชาติของมนุษย์ นักลงทุนคริปโตที่มักมีแนวโน้มไล่ตามราคา นั่นคือ ซื้อสูงและขายต่ำ ทำนองเดียวกันกับที่มักพบในการเงินแบบเก่า
ราคา Bitcoin เทียบกับการใช้งาน Exchange ที่มา : The Bank for International Settlements
และ BISIH ยังชี้ให้เห็นความเสี่ยงจริงจากคริปโตเนื่องจากความเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจจริงเพิ่มขึ้น “นักลงทุนสถาบันและครัวเรือนยังแสดงความสนใจคริปโตต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีเหตุการณ์ในปีที่ผ่านมา” รายงานกล่าว โดยอ้างถึงคริปโตฤดูหนาว (crypto winter) นอกจากนี้ การแปลงสินทรัพย์เป็นโทเคนอาจส่งเสริมให้ตลาดคริปโตเติบโตต่อไปอีกด้วย รายงานไม่ได้อธิบายกลไกที่เป็นทางการสำหรับสิ่งนี้ เหรียญ stablecoin ต่าง ๆ อาจนำไปสู่เศรษฐกิจ “cryptoisation” ที่เงินสดถูกบีบออกไป
BISIH ร่วมมือกับธนาคารกลางเยอรมนีและเนเธอร์แลนด์ ริเริ่มโครงการ Project Atlas ทำให้เห็นถึงการไหลของคริปโตข้ามพรมแดน และ “จำเป็นต้องมีขั้นตอนเพิ่มเติมในการประเมินโลกของตลาดคริปโต” รายงานสรุปว่า
“ความผิดปกติทางโครงสร้างของคริปโตทำให้มันไม่เหมาะที่จะเล่นบทบาทสำคัญในระบบการเงิน”
BISIH นำเสนอรายงานต้นแบบแนวคิด CBDC 12 โครงการในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา จากทั้งหมด 29 โครงการ และได้เรียนรู้บทเรียนที่คุ้มค่า รายงานพิจารณาถึงตัวแปรต่าง ๆ ทั้งของ wholesale CBDC และ retail CBDC รวมถึงความต้องการ ความเป็นไปได้ และความเหมาะสมนำไปใช้งานได้จริงในทางปฏิบัติ
โทนของรายงานแตกต่างจากเนื้อหาคริปโต
“โดยการเป็นพื้นฐานของระบบการเงินในอนาคตนั้น CBDC จะเป็นรากฐานสร้างนวัตกรรมต่อไป”
รายงานสรุปข้อมูลจำนวนมากจาก 12 โครงการและแนะนำวิธีที่นำสารสนเทศไปใช้ได้ รายงานสรุปวิเคราะห์ช่องว่างในการวิจัยเป็นอันดับแรก “การทดสอบภายใต้ร่มโครงการ BISIH นั้นช่วยให้โครงการต่าง ๆ เกิดขึ้นเรื่อย ๆ ไปตามลำดับ”
นอกจากนี้ โครงการ BISIH ยังสามารถสนับสนุน “วิธีการแบบโมดูลาร์ (modular approach)” ได้ จะทำให้องค์ประกอบต่าง ๆ เช่น ระบบการชำระเงิน การแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และการปฏิบัติตามกฎระเบียบสามารถ “แยก” จากโครงการเดิมเพื่อใช้งานอื่น ๆ ได้ง่ายขึ้น จำนวนโครงการ CBDC กำลังจะเกิดขึ้นอีกต่อนับจากนี้ BIS กล่าว
ที่มา : cointelegraph.com