รายงานล่าสุดเปิดเผยว่า FTX ได้ว่าจ้างทีมพิสูจน์หลักฐานทางการเงินเพื่อติดตาม crypto มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ของลูกค้าที่หายไป
บริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน AlixPartners ได้รับเลือกให้ทำงานนี้ ซึ่งนำทีมโดย Matt Jacques อดีตหัวหน้าฝ่ายบัญชีของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) ตามรายงานเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม จาก Wall Street Journal
เป็นที่เข้าใจกันว่า สำนักงานพิสูจน์หลักฐานได้รับมอบหมายให้ดำเนินการ “asset-tracing” เพื่อระบุและกู้คืนสินทรัพย์ดิจิทัลที่หายไป รวมถึงการปรับโครงสร้างที่ดำเนินการโดย FTX
เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนแฮ็กเกอร์รายหนึ่งได้แฮ็กกระเป๋าเงินของ FTX และ FTX.US มูลค่าทรัพย์สินที่ถูกขโมยไปรวมกว่า 450 ล้านดอลลาร์
อดีต CEO Sam Bankman-Fried ได้อ้างในการสัมภาษณ์ที่บันทึกไว้เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายนกับ Tiffany Fong บล็อกเกอร์ crypto ว่าเขาใกล้จะพบว่าใครเป็นแฮ็กเกอร์แล้วและได้จำกัดให้แคบลง “เหลือแปดคน” โดยเชื่อว่าเป็น “ทั้งอดีต-พนักงานหรือใครสักคนที่ติดตั้งมัลแวร์ในคอมพิวเตอร์ของอดีตพนักงานอีกคนหนึ่ง”
เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายนทนายความที่เป็นตัวแทนของลูกหนี้ FTX กล่าวว่า “ทรัพย์สินจำนวนมากถูกขโมยหรือหายไป” จาก FTX และเปิดเผยในเวลานั้นว่าบริษัทวิเคราะห์บล็อคเชน เช่น Chainalysis ได้รับความช่วยเหลือในฐานะส่วนหนึ่งของกระบวนพิจารณา
เงินที่ถูกขโมยจาก FTX ได้เคลื่อนผ่านบริการผสม Crypto และกระดานเทรด crypto ต่างๆ เพื่อฟอกเงิน
แฮ็กเกอร์ได้โอน Ether (ETH) ที่ขโมยมาไปยังกระเป๋าเงินใหม่ในวันที่ 20 พฤศจิกายน และ Swap เหรียญ ETH บางส่วนเป็น Bitcoin รุ่น ERC-20 หลังจากทำการ bridge เงินก้อนนี้ไปยังเครือข่าย Bitcoin
จากนั้นพวกเขาใช้เทคนิคการฟอกที่เรียกว่า Peel chaining โดยการแบ่งเงินก้อนนี้ออกเป็นจำนวนที่เล็กลงเรื่อย ๆ ไปยังกระเป๋าเงินต่าง ๆ และส่ง BTC ผ่านบริการ Crypto mixer ก่อนที่จะส่งไปยังเว็บเทรด OKX ในวันที่ 29 พฤศจิกายน อีกทั้งแฮ็กเกอร์ยังได้แบ่ง 180,000 ETH ออกเป็น 12 กระเป๋าเงินที่สร้างขึ้นใหม่ในวันที่ 21 พฤศจิกายน
ที่มา : cointelegraph.com
สามารถติดตามข่าวสารได้ที่ช่องทางต่างๆเพียงคลิกที่ Line , Facebook , Twitter และ Telegram