ทนายความของ BlockFi กล่าวในวันแรกของการพิจารณาคดีล้มละลายว่า ผู้ให้กู้ crypto มีเงิน 355 ล้านดอลลาร์ติดอยู่กับ FTX และ Alameda Research อีกทั้ง บริษัทในเครือที่ล่มสลายยังผิดนัดชำระเงินกู้ 680 ล้านดอลลาร์อีกด้วย
BlockFi ยื่นคำร้อง 15 ครั้งในวันที่ 28 พฤศจิกายน ซึ่งได้รับการอนุมัติจากศาลในการไต่สวนวันแรกเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน รวมถึงการปกปิดข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าหนี้รายใหญ่ที่สุด 50 ราย และการแต่งตั้ง Kroll Restructuring Administration ซึ่งเป็นบริษัทเดียวกับที่ FTX เลือกสำหรับดำเนินคดีล้มละลายในบทที่ 11
ในจดหมายที่เขียนส่งถึงลูกค้าระบุว่า BlockFi ได้รับอนุมัติอนุญาตให้ดำเนินการต่อไปได้ในระหว่างกระบวนการปรับโครงสร้าง และยังจ่ายเงินให้พนักงานและลูกจ้างอิสระต่อไป โดยทาง BlockFi ประมาณการว่าใบเรียกเก็บเงินค่าจ้างอยู่ที่ประมาณ 5.8 ล้านดอลลาร์ต่อเดือน และเป็นหนี้ค่าจ้างประมาณ 1.5 ล้านดอลลาร์เมื่อยื่นคำร้องเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน
ข้อความถึงลูกค้ายังระบุอีกว่า “จุดสนใจเดียว” ของ BlockFi ตลอดการดำเนินการคือ “เพิ่มมูลค่าสูงสุดให้กับลูกค้าทั้งหมดและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่นๆ“
ตามรายงานของ CNBC เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน ระบุว่า Joshua Sussberg ทนายความของ BlockFi กล่าวเพิ่มเติมในการพิจารณาคดีว่า BlockFi วางแผนที่จะเปิดการถอนเงินให้กับลูกค้าอีกครั้งในเวลาที่ไม่ระบุ และเขามองในแง่ดีว่าบริษัทจะสามารถกอบกู้ธุรกิจได้หลังจากการปรับโครงสร้าง
ในขณะที่ FTX และ Alameda เป็นหนี้ BlockFi อยู่ราว 1 พันล้านดอลลาร์ แต่สถานะของภาระผูกพันทางการเงินกลับซับซ้อนมากขึ้นด้วยวงเงินสินเชื่อ 400 ล้านดอลลาร์ที่ขยายไปยัง BlockFi โดย FTX US เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม
ตามรายงานของ BlockFi ซึ่งอ้างว่าการล่มสลายของ FTX เป็นสาเหตุหลักของการยื่นล้มละลายในครั้งนี้ ทั้งนี้ บริษัทยังคงเป็นหนี้ FTX US จำนวน 275 ล้านดอลลาร์ในข้อตกลงที่อ้างว่าได้รับความเห็นชอบจากผู้ถือหุ้น 89%
เงินดังกล่าวถูกมอบให้กับ BlockFi หลังจากที่ได้รับผลกระทบจากการล่มสลายของ Stablecoin ของ Terra เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม BlockFi เปิดเผยว่าเงินกู้มีกำหนดครบกำหนดในวันที่ 30 มิถุนายน 2027 และมีอัตราดอกเบี้ยที่ 5%
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน BlockFi ได้ฟ้องบริษัทโฮลดิ้งของ Bankman-Fried ที่ชื่อว่า Emergent Fidelity Technologies โดยขอหลักประกันที่ Emergent ให้คำมั่นว่าจะจ่ายในวันที่ 9 พฤศจิกายน ซึ่งรวมถึงหุ้นใน Robinhood โดยการพิจารณาคดีครั้งต่อไปจะมีขึ้นในวันที่ 9 มกราคม
ที่มา : cointelegraph.com
สามารถติดตามข่าวสารได้ที่ช่องทางต่างๆเพียงคลิกที่ Line , Facebook , Twitter และ Telegram