เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน Michael Kondoudis ทนายความด้านสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าของสหรัฐฯ ประกาศว่า JP Morgan & Chase Co ซึ่งเป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกาและเป็นหนึ่งในบริษัทการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้จดทะเบียนสิทธิบัตรเพื่อลงทุนใน Web3 สำหรับกระเป๋าเงินสินทรัพย์ดิจิทัลตัวใหม่
ตามรายงานของ Kondoudis สำนักงานสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าของสหรัฐอเมริกา (USPTO) ได้อนุมัติใบสมัครของ JP Morgan & Chase Co. เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน โดยกระเป๋าเงินดังกล่าวจะให้บริการต่าง ๆ เช่น การโอนและการแลกเปลี่ยนสกุลเงินเสมือน, การประมวลผลการชำระเงินด้วยคริปโต, บัญชีตรวจสอบเสมือนจริง และบริการทางการเงิน
JP Morgan ลงลึกเข้าสู่โลก Cryptocurrency
แม้ CEO จะมีท่าทีขัดแย้งต่อ Bitcoin และ cryptocurrencies แต่ธนาคารยังคงเดิมพันกับผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ crypto เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการทำธุรกรรม ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน พวกเขา “ก้าวไปอีกขั้น” ด้วยการทำธุรกรรมข้ามพรมแดนเป็นครั้งแรกโดยใช้ Polygon ซึ่งเป็นโซลูชันที่ปรับขนาดเลเยอร์ 2 สำหรับเครือข่าย Ethereum
ในช่วงปลายเดือนตุลาคม 2020 ธนาคารได้ประกาศเปิดตัวเหรียญ Stablecoin ที่เรียกว่า JPM Coin ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลตัวแรกที่ได้รับการสนับสนุนโดยธนาคารของสหรัฐอเมริกาที่ใช้ในการทำธุรกรรมข้ามพรมแดน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงจุดยืนที่สนับสนุนนวัตกรรมคริปโต ในวันเดียวกัน พวกเขาได้เปิดตัว Onyx ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มบล็อกเชนที่นำโดยธนาคารที่แรกของโลก เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ แพลตฟอร์ม และตลาดที่เป็นนวัตกรรมใหม่
แม้ว่าการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของ “JP Morgan Wallet” จะแสดงให้เห็นว่ากระเป๋าเงินดิจิทัลใหม่จะถูกใช้ในการประมวลผลการชำระเงินด้วยสกุลเงินดิจิทัล แต่ก็ไม่ได้ระบุรายละเอียดไว้อย่างชัดเจนว่าอนุญาตให้ใช้สกุลเงินดิจิทัลใดได้บ้าง
หากมีความจำเป็น ก็มีโอกาส
ตั้งแต่ปี 2017 CEO ของ JP Morgan ยังคงแสดงท่าทีที่รุนแรงต่อ Bitcoin และสกุลเงินดิจิตอล โดยเรียกมันว่า “การฉ้อโกง” และการลงทุนที่ “เลวร้ายยิ่งกว่าหัวดอกทิวลิป” จนถึงขั้นที่เขาบอกว่า เขาจะไล่เทรดเดอร์ของ JP Morgan ที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิตอลออกทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการของธนาคารมองว่าสกุลเงินดิจิทัลคือโอกาส ในช่วงต้นปี 2021 คุณ Daniel Pinto ประธานร่วมของ JP Morgan กล่าวว่าธนาคารยินดีที่จะมีส่วนร่วมกับ Bitcoin และ cryptocurrencies หากมีความต้องการที่มากพอ และก็ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าลูกค้าของพวกเขาต้องการเช่นนั้น แม้ว่าจะเกิดตลาดหมีก็ตาม
แม้ว่าปี 2021 จะเป็นปีที่ดีที่สุดสำหรับ Bitcoin ในแง่ของราคา ATH ที่ $69,000 ที่เกิดขึ้นในช่วงปลายปี แต่ความผิดพลาดที่ตามมาก็เป็นเหตุผลมากพอที่ Dimon จะโต้แย้ง Bitcoin ว่าเป็น “การฉ้อโกง”
แม้จะมีข่าวเชิงลบเกี่ยวกับระบบนิเวศคริปโตเมื่อเร็วๆ นี้ เช่น การล่มสลายของ Terra การล้มละลายของกองทุนเฮดจ์ฟันด์หลายแห่ง และเว็บเทรดสกุลเงินดิจิตอล FTX ที่ล่มสลาย แต่สถานการณ์เหล่านี้ก็ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าชุมชนเต็มใจที่จะใช้ Bitcoin ของตนไม่ว่าพวกเขาจะได้ยินข่าว FUD มามากน้อยแค่ไหนก็ตาม
ที่มา : cryptopotato.com
สามารถติดตามข่าวสารได้ที่ช่องทางต่างๆเพียงคลิกที่ Line , Facebook , Twitter และ Telegram
