Michael Saylor ผู้ร่วมก่อตั้ง MicroStrategy ให้ความเห็นว่า วิกฤต FTX จะมีประโยชน์บางอย่างกับ Bitcoin โดยในมุมมองของเขา ความปั่นป่วนจะขจัดสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไร้ประโยชน์นับพันออกไป ในขณะที่สกุลเงินดิจิทัลหลักและเหรียญอื่นๆ “จำนวนหนึ่ง” จะยังคงอยู่รอด
Bitcoin จะเป็นผู้ชนะ
ในการสัมภาษณ์ เมื่อเร็ว ๆ นี้ กับ CNBC ประธานบริหารของ MicroStrategy นาย Michael Saylor อธิบายว่า การล่มสลายของเว็บเทรดคริปโต FTX เป็นผลมาจากการขาดความโปร่งใส ตามที่ Saylor กล่าว หากบริษัทถือครอง BTC พวกเขาจะ “ไม่มีใครต้องรับผิด”
“คุณต้องมีความโปร่งใสอย่างเต็มที่ และนั่นคือสิ่งที่ Bitcoin เป็น แต่ไม่ใช่กับ [โทเคน FTX] FTT ” เขากล่าว
ผู้ประกอบการชาวอเมริกันเชื่อว่า ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องจะช่วยเร่งการดำเนินการตามกฎที่จำเป็นในภาคอุตสาหกรรมคริปโต เขาคาดว่าสินทรัพย์ดิจิทัลเพียง “หยิบมือเดียว” เท่านั้นที่จะสามารถครอบคลุมข้อกำหนดด้านกฎระเบียบ โดยที่ Bitcoin เป็นหนึ่งในนั้น :
“Bitcoin จะเป็นผู้ชนะเพราะ Bitcoin เป็นสินค้าดิจิทัล และมีข้อโต้แย้งน้อยที่สุดในบรรดาทุกสิ่ง”
Saylor ทำนายว่า อุตสาหกรรม crypto กำลังจะก้าวไปสู่ยุคที่สถาบันชั้นนำและ “ผู้เล่นรายใหญ่” จะเข้ามาในระบบนิเวศของ BTC ในไม่ช้า และด้วยเหตุนี้ จะเป็นการเพิ่มการพัฒนาและราคาของมัน
แม้ว่าปัจจุบัน สินทรัพย์ยังห่างไกลจากวันที่ดีที่สุดและซื้อขายที่ประมาณ 16,500 ดอลลาร์ หรือลดลง 75% เมื่อเทียบกับระดับสูงสุดตลอดกาลของปีที่แล้วที่เกือบ 70,000 ดอลลาร์
Bitcoin ทะยานสู่ 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ตลาดหมีที่ยืดเยื้อไม่ได้เปลี่ยนความคิดและความคาดหวังของ Saylor ที่ว่ามูลค่าของ Bitcoin จะพุ่งสูงขึ้นในปีต่อ ๆ ไป
เขายืนยันว่า BTC เป็นเครื่องมือทางการเงินที่ดีกว่าทองคำในเดือนมิถุนายน และคาดการณ์ว่าจะพุ่งสูงถึง 1,000,000 ดอลลาร์ไม่ช้าก็เร็ว
เขาย่ำในคำทำนายของเขาในเดือนกันยายน โดยกล่าวว่า BTC อาจแตะระดับ 500,000 ดอลลาร์ในทศวรรษหน้า นอกจากนี้ ประธานกรรมการบริหารของ MicroStrategy ยังคิดว่า Bitcoin อาจทำจุดสูงสุดใหม่ “ในช่วงสี่ปีข้างหน้า”
ที่มา : cryptopotato.com
สามารถติดตามข่าวสารได้ที่ช่องทางต่างๆเพียงคลิกที่ Line , Facebook , Twitter และ Telegram