มีรายงานว่า Elon Musk ปิดดีลข้อตกซื้อแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย Twitter มูลค่า 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์ เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม และเริ่มแผนการรีโนเวทแพรตฟอร์มในฐานะผู้บริหารระดับสูงของบริษัท
ตามแหล่งข่าวจากหลายช่องทางรายงานว่า CEO Parag Agrawal, CFO Ned Segal และหัวหน้าฝ่ายกฎหมายและนโยบาย Vijaya Gadde ถูกไล่ออกในวันแรก หลังจากที่ Musk ขึ้นรับตำแหน่งผู้บริหารคนใหม่ โดยให้เหตุผลว่า พวกเขาทำให้เขาเข้าใจผิดเกี่ยวกับจำนวนบัญชีสแปมบนแพลตฟอร์ม
Agrawal และ Segal ถูก “พา” ออกจากสำนักงานใหญ่ของบริษัทเมื่อข้อตกลงปิดตัวลง ตามแหล่งข่าวของ Reuters
ก่อนหน้านี้ Musk ได้พยายามยกเลิกข้อตกลงซื้อกิจการ Twitter ในเดือนกรกฎาคม โดยกล่าวหาว่า บริษัทกระทำการ “ให้ข้อมูลที่เป็นเท็จและทำให้เข้าใจผิด” เกี่ยวกับจำนวนสแปมและบัญชีปลอมบนแพรตฟอร์ม
เมื่อข้อตกลงปิดตัวลง Musk ต้องการที่จะเปลี่ยนแพลตฟอร์มให้เป็นปราการของเสรีภาพในการพูด “Common Digital Town Square” เพื่อลดความรุนแรงลง เมื่อความเห็นแต่ละฝ่ายไม่ตรงกัน และลบบัญชีปลอมรวมถึงบอทสแปมทั้งหมด
ในจดหมายที่เขียนถึงผู้โฆษณาบน Twitter เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม Musk ได้ย้ำถึงแรงจูงใจในการซื้อ Twitter โดยกล่าวว่า “อนาคตของอารยธรรมจำเป็นต้องมีจัตุรัสกลางเมืองดิจิทัล” ที่ปราศจากการแบ่งขั้วอำนาจทางการเมือง
มหาเศรษฐีเสริมว่า เขาซื้อแพลตฟอร์มนี้ “เพื่อช่วยเหลือมนุษยชาติที่ผมรัก” และต้องการผลักดัน Twitter ให้กลายเป็น “แพลตฟอร์มโฆษณาที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในโลก”
เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 27 ตุลาคม Musk ได้ลงคลิปที่เขาแบกอ่างล้างหน้ามาที่สำนักงานใหญ่ของ Twitter บนทวิตเตอร์ของเขา พร้อมเขียนแคปชั่นสั้นๆ ประกอบคลิปว่า “Let that sink in” ซึ่งเป็นสำนวนที่แปลได้ประมาณว่า “ก่อนจะพูดอะไรหากคุณได้เห็นข่าวขอให้ลองคิดทบทวนก่อนสักนาที“
เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม The Washington Post รายงานว่า Musk วางแผนที่จะลดพนักงานของ Twitter มากถึง 75% แต่รายงานจาก Bloomberg ในอีกไม่กี่วันต่อมาเปิดเผยว่า Musk บอกกับเจ้าหน้าที่ Twitter ในวันที่ 26 ตุลาคม ในระหว่างการเยือนของเขาว่า ข้อความดังกล่าวเป็นเท็จและเขาไม่ได้มีแผนจะไล่พนักงานออก
ที่มา : cointelegraph.com
สามารถติดตามข่าวสารได้ที่ช่องทางต่างๆเพียงคลิกที่ Line , Facebook , Twitter และ Telegram