ในขณะที่บางคนคาดการณ์ว่า ผู้คนจำนวนมากจะเข้าสู่โลก crypto เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อ แต่ความเป็นจริงนั้นยังอยู่ไกลจากความคาดหวังของสมาชิกบางคน จากการอภิปรายใน subreddit r/cryptocurrency เกี่ยวกับหัวข้อนี้และได้มีการสำรวจว่า ทำไมอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นไม่ได้ผลักดันผู้คนจำนวนมากให้เข้าสู่พื้นที่ crypto
ตามที่ผู้ใช้ Reddit ระบุ เหตุการณ์ เช่น Federal Reserve พิมพ์เงินมากขึ้นและรัฐบาลใช้เงินมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้พวกเขาเข้าสู่พื้นที่ crypto เนื่องจากหนึ่งในหน้าที่ของมันคือการป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ โดย Redditor โพสต์ว่า พวกเขาคาดหวังให้คนอื่นทำเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม สมาชิกในชุมชนรู้สึกสับสนว่าทำไมถึงไม่เป็นเช่นนั้น
ในขณะที่สมาชิกชุมชนรายหนึ่งชี้ให้เห็นว่า อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นหมายความว่าต้นทุนสินค้ากำลังเพิ่มขึ้น ด้วยเหตุนี้ Redditor เชื่อว่าผู้คนมี “การลงทุนน้อยลง” โดยอธิบายว่า ผู้คนจะจัดลำดับความสำคัญของความต้องการขั้นพื้นฐานมากกว่าที่จะนำเงินไปลงทุนใน crypto ซึ่งผู้ใช้รายอื่นเห็นด้วยกับแนวคิดนี้
ในขณะเดียวกัน ผู้ใช้รายอื่นบอกว่า เงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) ทำงานได้ดีตลอดทั้งปี ตามที่ผู้ใช้บอก แม้แต่ Bitcoin (ฺBTC) ได้สูญเสียมูลค่าเมื่อเทียบกับ USD ในปีปัจจุบัน นอกจากนี้ ผู้ใช้เชื่อว่าคนที่ไม่กระโดดเข้าสู่พื้นที่ crypto เนื่องจากความกังวลเรื่องความผันผวน, การขาดกรณีการใช้งาน, การหลวกลวง, การ rug pull และกลัวที่จะถูกแฮ็ก
แม้จะมีความคิดเชิงลบ แต่บางคนก็ยังโต้แย้งในประสิทธิภาพของ crypto โดยสมาชิกชุมชนรายหนึ่งกล่าวว่า ในแง่ของความผันผวน Bitcoin มีความผันผวนน้อยกว่าเมื่อเทียบกับหุ้นเทคโนโลยีบางตัวในปีนี้ ในแง่ของกรณีการใช้งาน มีกรณีการใช้งานมากมายที่รองรับสกุลเงินดิจิทัล เช่น ธุรกรรมข้ามพรมแดนที่ง่ายกว่าและ Smart contracts เมื่อพูดถึงการหลอกลวง สมาชิกในชุมชนกล่าวว่า มีการหลอกลวงอยู่ทุกหนทุกแห่ง โดยอ้างถึงอสังหาริมทรัพย์ การหลอกลวงทองคำปลอม และโครงการแชร์ลูกโซ่ต่างๆ
เมื่อวันที่ 13 ต.ค. นักการเมือง Nigel Farage บอกกับทาง Cointelegraph ว่าสิ่งหนึ่งที่ดึงดูดใจของ Bitcoin คืออุปทานคงที่ และกล่าวว่ามันไม่สามารถเพิ่มจำนวนไปมากกว่านี้ได้ เขาคาดการณ์ว่า ในไม่ช้า Bitcoin จะกลายเป็นวิธีการชำระเงินที่เชื่อถือได้ในยุโรป เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่กำลังจะเกิดขึ้นในอีก 2-3 ปีข้างหน้า
ที่มา : cointelegraph.com
สามารถติดตามข่าวสารได้ที่ช่องทางต่างๆเพียงคลิกที่ Line , Facebook , Twitter และ Telegram