กระทรวงยุติธรรม (DOJ) ของสหรัฐอเมริกาได้จัดตั้งหน่วยงานที่ประกอบด้วยอัยการของรัฐบาลกลางมากกว่า 150 คน โดยมีเป้าหมายเพื่อปราบปรามอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัล นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีแผนที่จะนำเสนอชุดกรอบการกำกับดูแลที่จะมาช่วยพัฒนาภาคสินทรัพย์ดิจิทัลในท้องถิ่นอีกด้วย
เมื่อต้นปีนี้ DOJ ได้จัดตั้งแผนกอื่นที่เรียกว่า “National Cryptocurrency Enforcement Team” และแต่งตั้งอัยการด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ Eun Young Choi เป็นหัวหน้าแผนก
มุ่งเน้นปราบปรามการฉ้อโกง Crypto
ในการให้สัมภาษณ์ล่าสุดกับ The Wall Street Journal ทาง DOJ ได้เปิดเผยถึงความมุ่งมั่นที่จะจำกัดการใช้ cryptocurrencies ในทางผิดกฎหมาย เช่น การฟอกเงินและการจัดหาเงินทุนเพื่อการก่อการร้าย ด้วยเหตุนี้จึงได้จัดตั้งหน่วยงานอัยการของรัฐบาลกลางในชื่อ “The Digital Asset Coordinators Network” โดยรวบรวมผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านและใช้ความชำนาญของพวกเขาในการระบุและป้องกันกิจกรรมที่ผิดกฎหมายดังกล่าว
Eun Young Choi ผู้อำนวยการคนแรกของ “National Cryptocurrency Enforcement Team” ที่จัดตั้งขึ้นก่อนหน้านี้ อธิบายว่า สินทรัพย์ดิจิทัลได้รับความนิยมมากขึ้นในหมู่ผู้กระทำผิด ดังนั้นการให้ความสำคัญกับเรื่องนี้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง
“อาชญากรรมเกี่ยวกับทรัพย์สินดิจิทัลเป็นเรื่องของสหสาขาวิชาชีพอย่างแท้จริง เป็นการสืบสวนข้ามพรมแดน ซับซ้อน และท้าทาย”
นอกเหนือจากการตามล่าหานักต้มตุ๋นคริปโตและนำพวกเขาไปสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว แผนกที่เพิ่งเปิดตัวใหม่จะให้ความรู้แก่เจ้าหน้าที่ของรัฐคนอื่นๆ เกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นในภาคส่วนนี้ เช่น ด้านภาษีและปัญหาสิ่งแวดล้อม
ในช่วงต้นปี 2022 DOJ ได้จัดตั้ง “National Cryptocurrency Enforcement Team” เพื่อรับมือกับแผนการการฉ้อโกง Crypto โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อาชญากรไซเบอร์จากอิหร่านและเกาหลีเหนือ ในเดือนกุมภาพันธ์ กรมได้ประกาศให้ Choi เป็นหัวหน้าหน่วย
DOJ กับอาชญากร Crypto
เป็นที่สังเกตว่า การจัดตั้ง “National Cryptocurrency Enforcement Team” ส่งผลในทางบวกต่อการปฏิบัติการของกระทรวงยุติธรรมต่ออาชญากรคริปโตเคอเรนซี
ในเดือนเมษายน เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายได้ยึดทรัพย์สินดิจิทัลมูลค่าประมาณ 34 ล้านดอลลาร์จากแฮกเกอร์ Dark Web ซึ่งผู้ต้องหาเป็นชาวเซาท์ฟลอริดาที่ใช้นามแฝงออนไลน์เพื่อขายสินค้าที่ผิดกฎหมายมากกว่า 100,000 รายการทั่วตลาดเพื่อแลกกับ cryptocurrencies
การสอบสวนร่วมกันระหว่างหน่วยงานของรัฐบาลกลาง รัฐ และท้องถิ่นหลายแห่ง ระบุผู้กระทำผิดและยึด 919.3 ETH, 643 BTC, 640 BTG, 640 BCH และ 640 BSV จากเขา ซึ่งเป็นหนึ่งในการริบทรัพย์สินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดที่เคยดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่ชาวอเมริกัน
หนึ่งเดือนต่อมา DOJ กล่าวหาว่า Luiz Capuci Jr. CEO และผู้ร่วมก่อตั้ง Mining Capital Coin (MCC) ว่าดำเนินโครงการปิรามิดคริปโตมูลค่า 62 ล้านดอลลาร์ ซึ่งผู้ต้องหาท่านนี้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะให้รางวัลมากมายหากนำเงินมาลงทุนในแพลตฟอร์มของเขา แต่เขากลับนำเงินที่ได้ไปซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยสำหรับตัวเขาเอง เช่น Lamborghini, Porsche และ Ferrari โดย Capuci อาจต้องเผชิญโทษจำคุกสูงสุด 45 ปีหากพบว่ามีความผิดจริง
ที่มา : cryptopotato.com
สามารถติดตามข่าวสารได้ที่ช่องทางต่างๆเพียงคลิกที่ Line , Facebook , Twitter และ Telegram