Crypto และตลาดหุ้นแดงอ่วม หลังจาก FOMC เปิดเผยรายงานเงินเฟ้อเมื่อวันที่ 13 กันยายน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไป (Headline Inflation) เพิ่มขึ้น 0.1% ต่อเดือน
แม้ว่าราคาน้ำมันจะร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบหลายเดือนและตลาดอสังหาริมทรัพย์เริ่มชะลอตัวลง แต่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังพุ่งขึ้น 0.6% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน และอัตราเงินเฟ้อปีต่อปีอยู่ที่ 8.3%
ในขณะที่ผู้เข้าร่วมตลาดและนักลงทุนต่างคาดการณ์ว่า การขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐครั้งต่อไปจะอยู่ที่ 0.75% ซึ่งหลายคนต่างสันนิษฐานว่า ตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของวันที่ 13 กันยายนจะเบากว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่ผลรับที่เห็นต่างตรงกันข้ามกับที่พวกเขาคิด
ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลงประมาณ 2.6% ในขณะที่ S&P 500 และ Nasdaq ร่วงลง 2.9% และ 3.6% ตามลำดับ โดยปกติแล้ว สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงก็ลดลงเช่นกัน และราคา Bitcoin ก็ถดถอยมากกว่า 50% ของผลกำไรในช่วงสุดสัปดาห์ล่าสุด โดยร่วงลงกว่า 9% เป็น 20,350 ดอลลาร์
เหลือเวลาเพียง 1 วันก่อนการ Merge ราคาของ Ether ก็ร่วงลง 7.29% อยู่ที่ 1,590 ดอลลาร์ และสกุลเงินดิจิตอลส่วนใหญ่ใน 100 อันดับแรกนั้นกำลังสูญเสียมูลค่ามากถึงสองหลักในขณะนี้
แม้ว่าราคา Bitcoin จะปรับตัวขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ตั้งแต่วันที่ 9 กันยายนจนถึงต้นสัปดาห์นี้ และราคาพุ่งสูงถึง 22,800 ดอลลาร์ แต่จากการวิเคราะห์ก่อนหน้านี้เตือนว่า BTC ยังซื้อขายใกล้กับแนวต้านสำคัญ
สิ่งที่ควรทราบคือ แม้จะมีการปรับฐานในวันที่ 13 กันยายน ราคา Bitcoin ยังคงลดลงในช่วง 90 วัน (ดังกรอบสีชมพูที่แสดงอยู่ด้านบน) ระหว่าง 25,400 ถึง 17,600 ดอลลาร์ จากมุมมองของนักวิเคราะห์ “ไม่สามารถคาดการณ์อะไรไปมากกว่านี้ได้” จนกว่าราคาจะทะลุต่ำกว่า 18,500 ดอลลาร์หรือต่ำสุดต่อปีที่ 17,600 ดอลลาร์
ที่มา : cointelegraph.com
สามารถติดตามข่าวสารได้ที่ช่องทางต่างๆเพียงคลิกที่ Line , Facebook , Twitter และ Telegram