Anthony Scaramucci ซีอีโอของ Skybridge Capital เชื่อว่า ในขณะที่ Bitcoin ยังคงเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจ แต่ก็ยังไม่ถึงขั้น “wallet bandwidth” ที่สามารถป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ
ในบทสัมภาษณ์กับ Squawk Box ของ CNBC เมื่อวันที่ 22 ส.ค. CEO ด้านการจัดการการลงทุนระดับโลกกล่าวว่า Bitcoin ยังคงเป็น “สินทรัพย์ทางเทคนิคที่ถูกนำมาใช้แต่เนิ่นๆ มากเกินไป” ซึ่งมันจะต้องถูกเก็บไว้ในกระเป๋าเงินประมาณ 1 พันล้านกระเป๋าก่อนที่จะเริ่มทำหน้าที่เป็นตัวป้องกันเงินเฟ้อ
“จนกว่าจำนวนกระเป๋าจะทะลุพันล้าน ผมไม่คิดว่าคุณจะเห็น Bitcoin เป็นเครื่องมือป้องกันเงินเฟ้อ [ป้องกันความเสี่ยง] เนื่องจากมันยังคงเป็นสินทรัพย์ทางเทคนิคในช่วงต้น”
ในขณะที่ยังไม่ทราบจำนวนที่แน่ชัดของกระเป๋าเงิน Bitcoin ในโลก จากข้อมูลประมาณการว่าจำนวนกระเป๋าเหล่านี้น่าจะอยู่ที่ประมาณ 200 ล้านกระเป๋า
ในปีก่อนหน้านั้น บางคนกล่าวว่า Bitcoin เป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อ เนื่องจากอุปทานคงที่ที่ 21 ล้าน BTC อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่พูดถึงนี้มักเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา เนื่องจาก Bitcoin มีความสัมพันธ์กับตลาดหุ้นมากขึ้น ตามรายงานของ IMF ฉบับใหม่
Scaramucci กล่าวว่า เขายังคงเชื่อมั่นใน Bitcoin และตลาด crypto โดยรวมชี้ไปที่การเคลื่อนไหวล่าสุดของ BlackRock ที่เพิ่งเปิดตัวผลิตภัณฑ์ Bitcoin ใหม่ที่เชื่อถือได้และ Coinbase ในฐานะผู้ดูแล สิ่งนี้บ่งชี้ว่า สกุลเงินดิจิทัลชั้นนำได้รับความสนใจในหมู่นักลงทุนสถาบัน
ในการให้สัมภาษณ์กับ Cointelegraph เมื่อเร็ว ๆ นี้ Steven Lubka กรรมการผู้จัดการของลูกค้าส่วนตัวที่ Swan Bitcoin แย้งว่า Bitcoin ควรได้รับการพิจารณาว่าเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ
ในขณะที่ Lubka เห็นด้วยว่า Bitcoin ล้มเหลวในการทำหน้าที่เป็นตัวป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อในช่วงวิกฤตเงินเฟ้อทั่วโลกในปีนี้ เขาเชื่อว่า อัตราเงินเฟ้อนี้มีสาเหตุมาจากอุปทานที่ตกต่ำมากกว่าการขยายตัวของเงิน ซึ่ง Bitcoin สามารถป้องกันภาวะเงินเฟ้อได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ที่มา : cointelegraph.com
สามารถติดตามข่าวสารได้ที่ช่องทางต่างๆเพียงคลิกที่ Line , Facebook , Twitter และ Telegram
