Khashayar Farmanbar รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของสวีเดน เชื่อว่า การจัดหาไฟฟ้าของประเทศควรมุ่งเน้นไปที่บางสิ่งที่ “มีประโยชน์มากกว่า” การขุด Bitcoin โดยตลอดหลายปีที่ผ่านมา ประเทศได้สร้างชื่อให้ตัวเองว่าเป็นหนึ่งในผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ที่สุดของโลก และนั่นคือสิ่งที่เราควรจะผลักดัน นักการเมืองกล่าวเสริม
ควรให้ความสำคัญกับการผลิตเหล็กไม่ใช่ Bitcoin
ท่ามกลางวิกฤตด้านพลังงานที่ครอบงำไปทั่วโลก Khashayar Farmanbar รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของสวีเดน ได้เรียกร้องให้รัฐบาลท้องถิ่นทุ่มเทกระแสไฟฟ้าให้กับภาคส่วนที่มีความเชี่ยวชาญชั้นนำ เช่น การผลิตเหล็ก แทนที่จะสนับสนุนนักขุด Bitcoin :
“เราต้องการพลังงานเพื่อสิ่งที่มีประโยชน์มากกว่า Bitcoin พูดตามตรง เรากำลังเปลี่ยนจากช่วงการบริหารไปสู่การขยายตัวที่รุนแรงซึ่งอุตสาหกรรมการผลิตทั้งหมดของเรากำลังแสวงหาไฟฟ้า”
อุตสาหกรรมเหล็กของสวีเดนผลิตเหล็กดิบมากกว่า 4.4 ล้านตันต่อปี เหล็กกล้าของสวีเดนขึ้นชื่อในด้านคุณภาพที่เหนือกว่า และมีการใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมยานยนต์และเครื่องจักร อย่างไรก็ตาม การผลิตนับตั้งแต่ปี 2013 เป็นกระบวนการที่ใช้พลังงานมาก ซึ่งพลังงานที่นำไปใช้ในอุตสาหกรรมในหนึ่งปีเกือบเท่ากับ 20 TWh (15% ของปริมาณการใช้ไฟฟ้าประจำปีทั้งหมดในประเทศในปีนั้น)
ในปีถัดมา ทางการได้ทำการแก้ไขบางอย่าง และทำให้ความต้องการพลังงานในภาคส่วนนี้ลดลงเกือบสองเท่า ในปีที่แล้ว บริษัทร่วมทุนสัญชาติสวีเดนชื่อ Hybrit เริ่มผลิตเหล็กโดยใช้ไฟฟ้าหมุนเวียนและไฮโดรเจนแทนถ่านหิน ซึ่งถือเป็นอีกก้าวที่โดดเด่นในการทำให้กระบวนการผลิตเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
ในทางตรงกันข้าม Bitcoin ยังคงถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในเรื่องการใช้ไฟฟ้าและส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม จากการประมาณการคร่าวๆ การขุด BTC ต้องการพลังงานมากกว่าความต้องการที่ทั้งประเทศ เช่น สวีเดนหรือยูเครนบริโภคต่อปี
โดยสรุป Farmanbar อ้างว่า การนำไฟฟ้าไปใช้กับอุตสาหกรรมที่สำคัญยิ่งมีความสำคัญมากขึ้นในปัจจุบัน เมื่อพิจารณาจากความปั่นป่วนทางการเงินและวิกฤตด้านพลังงานที่ทำให้โลกพิการ
การเติบโตของ Bitcoin เรียกร้องให้มีกฎระเบียบ
เมื่อฤดูร้อนที่แล้ว ผู้ว่าการธนาคารกลางของสวีเดน Stefan Ingves กล่าวว่า Bitcoin ได้มาถึงระดับดังกล่าวแล้ว ซึ่งกฎระเบียบที่บังคับได้กลายเป็นสิ่งจำเป็น :
“เมื่อมีบางสิ่งที่ใหญ่พอ ความสนใจของผู้บริโภคและการฟอกเงินก็เข้ามามีบทบาท นั้นเป็นเหตุผลที่ทำให้ต้องมีกฎระเบียบ”
ก่อนหน้านั้น ธนาคารกลางของประเทศได้เผยแพร่การศึกษาเรื่อง CBDC เป็นครั้งแรก อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กล่าวว่าการเปิดตัว e-krona จะซับซ้อนกว่าที่เคยคิดไว้ และผลิตภัณฑ์ทางการเงินคาดว่าจะเปิดตัวได้เร็วที่สุดในปี 2026
ที่มา : cryptopotato.com
สามารถติดตามข่าวสารได้ที่ช่องทางต่างๆเพียงคลิกที่ Line , Facebook , Twitter และ Telegram
