ครม.ผ่านกฎหมายฟอกเงิน เพิ่มความผิดมูลฐาน ซื้อขายสินทรัพดิจิทัล
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ตามที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เสนอมา ซึ่งเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542
โดยปรับปรุงมาตรการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากลด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย(Anti-Money Laundering and Combating the Financing of Terrorism (AML/CFTX)) ซึ่งเป็นไปตามข้อแนะนำของคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อดำเนินมาตรการทางการเงิน(The Financial Action Task Force – FATF)
เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพปัจจุบัน เกิดความเป็นธรรมและการบังคับใช้กฎหมายมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ยังช่วยให้ไทยสามารถเข้ารับการประเมินการปฏิบัติตามมาตรฐานสากลด้าน AML/CFTX ได้ทันตามรอบการประเมิน ซึ่งจะผลักดันให้ไทยเข้าเป็นสมาชิก FATF ภายในปี 2566 สำหรับร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้มีสาระสำคัญ ดังต่อไปนี้
• แก้ไขเพิ่มเติมบทนิยาม “ความผิดมูลฐาน” ให้ครอบคลุมความผิดในสถานการณ์ปัจจุบัน เช่น การค้าสื่อลามกอนาจารเด็ก การหลีกเลี่ยงหรือลักลอบหนีศุลกากร การปลอมเอกสารสิทธิ/เอกสารราชการ การซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล การสมยอมในการเสนอราคา การเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด และเพิ่มบทนิยาม “ผู้ประกอบอาชีพ” ให้มีความชัดเจนและสอดคล้องกับผู้ประกอบธุรกิจในบ้านเรา
• ปรับปรุงหลักเกณฑ์การรับแจ้ง การรวบรวม และจัดส่งข้อมูลของพนักงานศุลกากรให้สำนักงาน ปปง. ครอบคลุมตราสารเปลี่ยนมือข้ามแดน (จากเดิมกำหนดเฉพาะเงินตราหรือเงินตราต่างประเทศ) รวมทั้งกำหนดให้พนักงานศุลกากรมีอำนาจยึดเงินตรา เงินตราต่างประเทศ และตราสารเปลี่ยนมือข้ามแดนดังกล่าวได้
• กำหนดหลักเกณฑ์การเก็บรักษารายละเอียดของข้อมูล หรือเอกสารเกี่ยวกับการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า
• เพิ่มบทบัญญัติความผิด กรณีใช้/ยอมให้บุคคลอื่นใช้ข้อมูล เอกสาร หรือหลักฐาน หรือเป็นตัวกลางในการจัดหาข้อมูล เอกสารหรือหลักฐานของบุคคลอื่น เพื่อประโยชน์ในการปกปิดตัวตนในการทำธุรกรรม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับ ไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
เมื่อร่างพระราชบัญญัตินี้มีผลบังคับใช้จะเกิดประโยชน์อย่างยิ่งในการเป็นเครื่องมือทางกฎหมายของภาครัฐในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมที่มีประสิทธิภาพ เกิดความเป็นธรรม และสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชน รวมทั้งการมีกฎหมายที่สอดคล้องกับมาตรฐานสากล ส่งผลต่อภาพลักษณ์ที่ดีของไทยในเวทีระหว่างประเทศ
สามารถติดตามข่าวสาร siambitcoin ที่ช่องทาง Facebook ได้โดย คลิก