นายกรัฐมนตรีของประเทศไทยได้ออกมาเตือนนักลงทุนที่จะลงทุนในคริปโตเคอเรนซี โดยกล่าวว่าตลาดมีความผันผวนและมีการเก็งกำไรสูง ประกอบด้วยในช่วงนี้ประชาชนให้ความสนใจในคริปโตเคอเรนซีเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากนักลงทุนรุ่นใหม่ในประเทศค้นพบว่าพวกเขาสามารถทำเงินได้อย่างรวดเร็วโดยการลงทุนในคริปโตเคอเรนซี
นายกรัฐมนตรีไทยเตือนเกี่ยวกับการลงทุนในคริปโตเคอเรนซี
นาย รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรีของไทย กล่าวเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า นายกรัฐมนตรี ประยุทธ์ จันทร์โอชา กังวลเกี่ยวกับประชาชนไทยที่ลงทุนในคริปโตเคอเรนซี โดยเฉพาะนักลงทุนรุ่นใหม่
การเตือนเกิดขึ้นในขณะที่นายกรัฐมนตรีได้ทราบว่าคนไทยที่เข้าสู่ช่วงวัยรุ่นไปจนถึงวัยทำงานต่างแห่กันไปลงทุนในคริปโตเคอเรนซี เนื่องจากได้รับผลตอบแทนที่สูงในระยะเวลาอันสั้น
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีขอให้นักลงทุนพิจารณาความเสี่ยงของการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทนี้ โดยตั้งข้อสังเกตว่าคริปโตเคอเรนซี ไม่มีปัจจัยพื้นฐานสนับสนุน มีความผันผวนสูงและมีการเก็งกำไรสูง
นอกจากนี้ เขายังขอให้ผู้ปกครองคอยระมัดระวังในการเปิดบัญชีซื้อขายสำหรับบุตรหลาน โดยเน้นว่าการลงทุนของผู้เยาว์ต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีขอให้นักลงทุนเข้าใจความเสี่ยงในการลงทุนและยอมรับความสูญเสียทั้งหมดได้ ควรพิจารณาการลงทุนอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจ ที่สำคัญไม่ควรโดนหลอกจากโฆษณาเกินจริงและต้องเลือกผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของประเทศ (ก.ล.ต.)
นาย รัชดา ธนาดิเรก กล่าวว่า “นายกรัฐมนตรีดีใจที่คนรุ่นใหม่สนใจการลงทุน แต่การลงทุนทั้งหมดมีความเสี่ยง” และยังอธิบายเพิ่มเติมว่า:
ปัจจุบัน ข้อมูลจากสำนักงาน ก.ล.ต. แสดงให้เห็นว่ามีบัญชีซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลจำนวน 1.49 ล้านบัญชี โดย 311,000 เป็นบัญชีที่ใช้งานอยู่ โดยมีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 6.6 พันล้านบาท (198 ล้านดอลลาร์) ผู้ใช้งาน 3% เป็นเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี และประมาณ 47% มีอายุต่ำกว่า 30 ปี
ในขณะเดียวกัน จำนวนบริษัทที่ให้บริการด้านการลงทุนก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน ซึ่งบางแห่งไม่มีใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในประเทศ นายกรัฐมนตรีเตือนประชาชนและนักลงทุนคริปโตเคอเรนซี ให้ระมัดระวังเมื่อใช้บริการที่ไม่ได้รับอนุญาต เนื่องจากไม่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย
ที่มา :news.bitcoin.com