โดยสรุป
- จากรายงาน “State of Crypto Report” ล่าสุดของ Coinbase ตลาดซื้อขายคริปโตในสหรัฐฯ กล่าวว่า เทคโนโลยีบล็อคเชนสามารถช่วยชาวอเมริกันประหยัดค่าธรรมเนียมทำธุรกรรมบัตรเครดิตได้อย่างน้อย $74 พันล้านดอลลาร์ คิดเป็นเงินออมได้เฉลี่ย $600 ดอลลาร์ต่อครัวเรือน
- “ชาวอเมริกันอย่างน้อยสามในห้าต้องการการอัปเดตระบบที่ทำให้ราคาถูกลง เร็วขึ้น และเข้าถึงได้มากขึ้น” รายงานเผย
Coinbase เผยเมื่อวันพุธในรายงาน “State of Crypto Report” ล่าสุดว่า เทคโนโลยีบล็อคเชนสามารถช่วยผู้บริโภคชาวอเมริกันได้หลายพันล้านดอลลาร์
“ในปี 2022 ผู้บริโภคสามารถประหยัดค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมบัตรเครดิตได้อย่างน้อย $74 พันล้านดอลลาร์โดยใช้เทคโนโลยีบล็อคเชน” Coinbase ระบุในรายงาน โดยชี้ให้เห็นถึงความคับข้องใจเกี่ยวกับค่าธรรมเนียม ตลาดฯ กล่าวว่า “ชาวอเมริกันอย่างน้อย 3 ใน 5 ต้องการการอัปเดตระบบที่ทำให้ราคาถูกลง เร็วขึ้น และเข้าถึงได้มากขึ้น”
Coinbase วิเคราะห์ตัวเลขโดยใช้ข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะที่ได้มาจากสำนักงาน ก.ล.ต.สหรัฐฯ สำนักงานสำรวจสำมะโนประชากรของสหรัฐฯ และบริษัทวิเคราะห์ข้อมูล Statista Block Research ก็มีส่วนร่วมในรายงานล่าสุดของ Coinbase ด้วย
ชาวอเมริกันต้องการระบบที่เร็วกว่าและถูกกว่า
Coinbase เห็นว่าเทคโนโลยีบล็อกเชนไม่เพียงแต่ให้บริการผู้บริโภคเท่านั้น แต่ยังรวมถึงธุรกิจต่าง ๆ ด้วย
“ร้านค้าจ่ายค่าธรรมเนียมมากกว่า $126 พันล้านดอลลาร์ในการประมวลผลธุรกรรมบัตรเครดิต” รายงานระบุ โดยเสริมว่าจำนวนเงินดังกล่าวเป็นต้นทุนสูงสุดเป็นอันดับสองรองจากค่าแรง “ด้วยการใช้เทคโนโลยีบล็อคเชนแทน พวกเขาสามารถจ่ายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น”
Coinbase ยังกล่าวอีกว่าพบว่าชาวอเมริกันมากกว่า 70% ต้องการ “ระบบการเงินที่อัปเดตล่าสุด” เรียกเก็บค่าธรรมเนียมน้อยลงและทำงานได้เร็วขึ้น
ที่มา : theblock.co